บขส. เร่งแผนพัฒนาธุรกิจระยะสั้น 6 โครงการ “รุกตลาดขนส่งพัสดุภัณฑ์ ผุดทำแอปฯ ขายตั๋วกับรถร่วมเอกชน” พร้อมจัดหารถโดยสารใหม่ ตั้งเป้าทยอยนำมาให้บริการปลายปี 67 ยกระดับบริการสาธารณะ-เพิ่มรายได้องค์กร
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ บขส. เร่งรัดดำเนินแผนพัฒนาธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการใช้บริการของ บขส. ให้กับประชาชน และสร้างรายได้ให้กับองค์กรนั้น โดยบริษัทฯ มีแนวทางดำเนินการแผนระยะสั้น ในปี 2567 และ ระยะยาว ปี 2568 – 2570 เพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และเกิดผลเป็นรูปธรรมไว้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับแผนพัฒนาธุรกิจ ระยะสั้น ในปี 2567 ปัจจุบันได้ดำเนินไป 6 โครงการ มีความคืบหน้าดังนี้
1.โครงการขนส่งสินค้า และพัสดุภัณฑ์ แบบ Hub to Door ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการดำเนินงาน การกำหนดอัตราค่าบริการ และขั้นตอนการดำเนินงาน
2.โครงการจัดหารถโดยสารเช่าใหม่ คาดว่าจะได้นำรถมาให้บริการประชาชนในช่วงปลายปี 2567 เป็นต้นไป เพื่อรองรับความต้องการในการใช้บริการของประชาชนรวมทั้งระบบมาตรฐานความปลอดภัย
3.โครงการพัฒนาแอปพลิเคชันจำหน่ายตั๋วรถโดยสารของ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมเอกชน อยู่ระหว่างการศึกษารวบรวมความต้องการขั้นตอนการใช้บริการของผู้โดยสาร เพื่อจัดทำแนวทางพัฒนาแอปพลิเคชัน
4.โครงการ บขส. เที่ยวทั่วไทย มู Amazing ซึ่ง บขส. ได้จัดทำกิจกรรมแบบเช้า-เย็นกลับ (วันเดย์ทริป) เส้นทางจันทบุรี เขาคิชฌกูฏ, กิจกรรมแบบค้างคืน เส้นทางบึงกาฬ และให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทาง ให้บริการเช่าเหมา เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร และจะมีการขยายในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป
5.โครงการศึกษาอัตราการจัดเก็บค่าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสาร (สถานีต้นทาง) อยู่ระหว่างกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณากำหนดอัตราค่าบริการใหม่ ก่อนออกร่างราชกิจจานุเบกษา
เพื่อประกาศและบังคับใช้ต่อไป
6.โครงการเดินรถระหว่างประเทศส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกมิติโดยความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมกับ สปป ลาว เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจเส้นทางและทำข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม บขส. พร้อมเร่งรัดดำเนินการแผนพัฒนาธุรกิจขององค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประสบความสำเร็จในทุกโครงการ เกิดการยกระดับบริการระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ปลอดภัย ประชาชนเกิดความประทับใจในการเดินทาง เชื่อมั่นในการใช้บริการ ส่งผลดีกับรายได้ และภาพลักษณ์ขององค์กรต่อไป