นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยี่ยมชมการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตามนโยบายรัฐบาลด้านการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยสนับสนุน Soft Power และพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม
นางสาวสุดาวรรณ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2567 ด้านกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ซึ่งมีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม พร้อมปลุกกระแสการท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จึงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นภายในชุมชนดังกล่าว อาทิ
แหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย วัดหน้าพระธาตุ รวมถึงวัดธรรมจักรเสมาราม (วัดพระนอนคลองขวาง) ซึ่งภายในวัดมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือพระนอนในวัดธรรมจักรเสมาราม เป็นพระนอนหินทรายที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย สร้างขึ้นจากหินทรายแดงขนาดใหญ่ และมีธรรมจักรศิลาชนิดเดียวกับพระปฐมเจดีย์ เป็นศิลปะยุคทวารวดีอีกด้วย
“วธ.จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆพัฒนาแหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย วัดหน้าพระธาตุ รวมถึงวัดธรรมจักรเสมารามและส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นรู้จักแพร่หลายของคนไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชนและจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะวัดธรรมจักรเสมารามเป็นวัดที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของอำเภอสูงเนินและจังหวัดนครราชสีมา วัดแห่งนี้มีความเก่าแก่และคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2295 และเป็นศูนย์กลางศาสนาของชุมชนเสมา และเมืองเสมายังเป็นเมืองโบราณที่อยู่คู่กับเมืองโคราฆปุระ ชุมชนโบราณแห่งแรกของโคราชอีกด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้เข้าดำเนินการอนุรักษ์และศึกษา สำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการบูรณะและพัฒนาวัดธรรมจักรเสมารามมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2563 ได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาและคณะทำงานโครงการศึกษาและจัดทำแผนอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานพระนอน วัดธรรมจักรเสมาราม ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตาม ดูแล และพร้อมบูรณะให้สถานที่แห่งนี้สวยงามและคงความเป็นประวัติศาสตร์ของไทย สู่การผลักดันให้เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายท่องเที่ยวทางโบราณสถานที่สวยงามของไทย พร้อมกันนี้ยังมีเทศกาลไหว้พระนอน ที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมร่วมจัดต่อเนื่องมา 3 ปี โดยในปีนี้ จะจัเขึ้นในวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2567 ขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกราบไหว้เสริมสิริมงคลกันนะคะ” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมยังได้ตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม ได้แก่ “ผ้าไหมลายช่อดอกดงเค็ง” ณ ปราสาทนางรำ ซึ่งลายผ้าดังกล่าวได้ยกให้เป็นลายอัตลักษณ์ ประจำอำเภอประทาย เนื่องจากในอดีต “ต้นเค็ง” เป็นต้นไม้ประจำถิ่นที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ณ บริเวณที่ตั้งชุมชนอำเภอประทาย ซึ่งลวดลายของผ้าประกอบด้วย ลายช่อดอกเค็ง ลายธารน้ำบึงกระโดน (ปลาซิว) ลายช่อสน และลายกำแพงป้อมปราการ
โดยในช่วงเย็น ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี รับชมการแสดง Soft Power มวยโคราชชุด “นาฏยุทธ” ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการแสดงที่สื่อถึงศิลปะการไหว้ครูแบบโบราณท่าแม่ไม้มวยโบราณสายโคราชที่กำลังจะสูญหายจากตำราพระเหมสมาหารเจ้าเมืองโคราชสมัยก่อน ซึ่งประกอบด้วยท่าหมัดเหวี่ยงควาย ล้มพลอยอาย ทัศมาลา ท่าฝึกอยู่กับที่ ท่าทุ่มทับ จับหัก ท่าหนุมานถวายแหวน ท่าฤาษีบดยา ท่าเตะคอขาด ท่าพระรามเดินดง เป็นต้น อีกด้วย
ในส่วนของวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ครม. ร่วมเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งนำเสนอผลการดำเนินงานที่สำคัญในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการด้านวัฒนธรรม ได้นำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (CPOT) จัดแสดง Soft Power เกี่ยวกับมวยโคราช การสาธิตโดยครูมวยไทยและจัดแสดงสินค้าเกี่ยวกับมวยไทย จัดแสดงกิจกรรมเที่ยวชุมชนยลวิถี ชุมชนคุณธรรมวัดด่านเกวียน สาธิตปั้นดินด่านเกวียนโดยเยาวชนนักปั้นจากชุมชนฯ รวมถึงจัดแสดงสินค้าวัฒนธรรมไทย CPOT เรื่องผ้าไหมโคราช ต่อยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวบนผืนผ้าและการใช้ลวดลาย Monogram ที่ทันสมัย โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และเครือข่ายทางวัฒนธรรมให้การต้อนรับ จากนั้นลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา และวิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา ก่อนเดินทางกลับ