สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงาน เมอร์เรย์ วัตต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ของออสเตรเลีย แสดงความยินดีที่สภาสูงของออสเตรเลียได้ผ่านร่างกฎหมายของรัฐบาลที่จะห้ามการส่งออกแกะมีชีวิตจากออสเตรเลียเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (1 ก.ค.) โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2028 หลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ผ่านสภาล่างของรัฐสภาในเดือนมิถุนายน
วัตต์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าร่างกฎหมายที่ได้รับอนุมัติจะส่งผลให้อนาคตของอุตสาหกรรมนี้มีความแน่นอนมากขึ้น พร้อมเสริมว่าชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่สนับสนุนการห้ามส่งออกแกะ อาทิ ประชาชนในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งเป็นรัฐหรือดินแดนเดียวของออสเตรเลียที่มีอุตสาหกรรมส่งออกแกะมีชีวิต
อนึ่ง พรรคแรงงาน (Labor Party) ให้คำมั่นที่จะห้ามส่งออกแกะที่มีชีวิตระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปในปี 2022 ซึ่งพรรคฯ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งดังกล่าว
เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลออสเตรเลียประกาศชุดความช่วยเหลือเป็นเงิน 107 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.63 พันล้านบาท) เพื่ออุดหนุนอุตสาหกรรมส่งออกแกะในช่วงการเปลี่ยนผ่าน
ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่ามูลค่าการส่งออกแกะมีชีวิตของออสเตรเลียลดลงจาก 415 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.02 หมื่นล้านบาท) ในปี 2002-2003 เป็น77 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.89 พันล้านบาท) ในปี 2022-2023 ขณะที่การส่งออกเนื้อแกะมีมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.1 แสนล้านบาท) ในปี 2022-2023
อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้สนับสนุนอุตสาหกรรมส่งออกแกะมีชีวิตได้มารวมตัวกันที่รัฐสภา เมื่อวันอังคาร (2 ก.ค.) เพื่อประท้วงการห้ามส่งออกดังกล่าว
มาร์ก ฮาร์วีย์-ซัตตัน ประธานฝ่ายบริหารของสำนักงานการส่งออกปศุสัตว์ ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐ เผยกับผู้สื่อข่าวว่าคำสั่งห้ามข้างต้นจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกลุ่มผู้ส่งออกปศุสัตว์ และรัฐบาลจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลัง