“โรม” เตรียมตั้งกระทู้ถามนายกฯ ปมแบงก์ไทยถูกใช้หนุนสงครามในเมียนมา หวังมาตอบด้วยตัวเอง แสดงบทบาทนำแก้ปัญหา สร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ
.
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคมนี้ ตนจะตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี กรณีมีรายงานของสหประชาชาติระบุว่าสถาบันการเงินของประเทศไทยกำลังถูกใช้เป็นทางผ่านเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อนำไปสนับสนุนการจัดซื้ออาวุธสำหรับทำสงครามปราบปรามประชาชนในประเทศ โดยมีข้อมูลว่าในปี 2566 ยอดธุรกรรมมีมูลค่ารวมถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก แม้ในรายงานยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ารัฐบาลไทยสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมกับธุรกรรมดังกล่าว แต่ในฐานะที่ไทยเป็นชาติสมาชิกของสหประชาชาติ ซึ่งมีจุดยืนคือไม่ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้เกิดการจัดซื้ออาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา รัฐบาลไทยควรแสดงออกและมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาตามที่ปรากฏในรายงาน ยกตัวอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ หลังจากทราบว่ามีบริษัทสัญชาติสิงคโปร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการจัดซื้ออาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา รัฐบาลสิงคโปร์ก็ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบอย่างจริงจังทันที จนสามารถลดธุรธรรมทางการเงินลงได้ถึงร้อยละ 90
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ล่าสุดตนได้ใช้ช่องทาง กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่ตนเป็นประธาน เรียกหน่วยงานต่างๆ เข้ามาพูดคุย ทุกฝ่ายเห็นตรงกันในเนื้อหาสาระของรายงานและพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องถือธงนำเรื่องนี้ และนายกรัฐมนตรีควรมาตอบกระทู้นี้ด้วยตัวเองในฐานะผู้นำประเทศ ไม่ควรมอบใครมาตอบแทน
.
เนื่องจากที่ผ่านมานายกฯ พูดเสมอถึงความสำคัญของการเดินทางไปต่างประเทศ ว่าต้องการแนะนำตัว เรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติเข้ามาลงทุน ประเด็นเมียนมานี้เองจะเป็นโอกาสสำคัญให้นายกฯ แสดงบทบาท สร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ รวมถึงแก้ไขปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ไทยติดกับเมียนมา กว่า 2,000 กิโลเมตร
.
อีกทั้งเป็นการยืนยันการให้ความสำคัญต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลไทยเสนอตัวเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ดังนั้นหากนายกฯ ถือธงนำเรื่องนี้ แก้ปัญหาในบ้านและข้างบ้านอย่างใส่ใจ นายกฯ จะไปเป็นเซลส์แมนขายของนอกบ้าน ก็จะไปอย่างสง่าผ่าเผยมากขึ้น ประเทศไทยจะมีที่ยืนบนเวทีโลก