สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงาน เมื่อวันพุธ (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โรคเอ็มพอกซ์ (MPOX) หรือโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดระหว่างประเทศ
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ แถลงข่าวว่าเขารับทราบคำแนะนำจากคณะกรรมการฉุกเฉิน ซึ่งได้ประชุมหารือและพิจารณาแล้วว่าสถานการณ์การระบาดของโรคเอ็มพอกซ์หรือโรคฝีดาษลิงถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ
ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศนับเป็นสัญญาณเตือนระดับสูงสุดภายใต้กฎหมายสาธารณสุขระหว่างประเทศ ทุกฝ่ายจึงควรเฝ้าระวังการระบาดของโรคเอ็มพอกซ์หรือโรคฝีดาษลิง ซึ่งมีแนวโน้มแพร่ระบาดภายในแอฟริกาและกระจายวงกว้างยิ่งขึ้น
ข้อมูลขององค์การฯ พบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคเอ็มพอกซ์หรือโรคฝีดาษลิงในปี 2024 ได้สูงเกินจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในปี 2023 แล้ว โดยขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่มากกว่า 14,000 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตอยู่ที่ 524 ราย
ทั้งนี้ องค์การฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกาประกาศให้การระบาดของโรคเอ็มพอกซ์หรือโรคฝีดาษลิงในเวลานี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขของทวีป
นายทีโดรส กล่าวเปิดการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินว่าการรับมือในตอนนี้ไม่ได้รับมือกับการระบาดของสายพันธุ์เดียว แต่เป็นการรับมือกับการระบาดของหลายสายพันธุ์ในหลายประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการระบาดและระดับความเสี่ยงแตกต่างกัน
เมื่อวันพุธ (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา องค์การเตรียมความพร้อมและรับมือภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขของคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่าสหภาพยุโรปประกาศแผนการจัดซื้อและบริจาควัคซีนเอ็มวีเอ-บีเอ็น (MVA-BN) แก่แอฟริกา จำนวน 175,420 โดส และบาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในเดนมาร์ก จะบริจาควัคซีนแก่องค์การฯ จำนวน 40,000 โดสด้วย