นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงกระแสข่าวที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ในพรรคหารือกันว่าเรื่องของการคุยเรื่องรัฐบาลได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนคุยเพียงคนเดียว วันนี้ตนจะ เจอนายเฉลิมชัย น่าจะได้ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะหากคุยมาแล้วก็จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหาร และสส.พรรคเพื่อขอความเห็นชอบ ถ้าที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบให้ร่วม ก็ไม่ร่วม แต่ถ้าส่วนใหญ่ให้ร่วม ก็เป็นไปตามนั้น เพราะพรรคอยู่ได้ด้วยมติ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้ได้ทำงาน จากการได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลาก็สนับสนุนให้ร่วมรัฐบาล เพื่อสร้างผลงานช่วยเหลือประชาชน เช่นเดียวกับ สส.ทุกเขตของพรรค ที่ถามคนในพื้นที่ ก็พูดเหมือนกัน ทั้งนี้เชื่อว่าถ้าตัดสินใจร่วมรัฐบาลและมีผลงาน ประชาชนก็คงไม่ลงโทษจนทำให้พรรคสูญพันธุ์
ส่วนจะมีความพร้อมทำหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายเดชอิศม์ กล่าวว่า สส.ในสภา แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม ก. สส.ที่พูดเก่ง ตำหนิเก่งพวกนี้จะทำงานไม่ค่อยเก่ง และมีความคิดไม่อยากร่วมรัฐบาล ขณะที่ กลุ่ม ข. พูดไม่เก่ง ตำหนิคนอื่นไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง หากมีโอกาสได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็มีโอกาสทำประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน และธรรมชาติของนักการเมือง คือมาเป็นผู้แทน ช่วยเหลือประชาชน และมั่นใจ ว่าไม่ว่าพรรคมีมติออกมา อย่างไรก็ไม่ทำให้พรรคแตก เพราะเชื่อว่าทุกคน ทำตามมติพรรค ซึ่งตอนร่วมรัฐบาลรอบที่แล้ว ก็มีเพียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคที่ลาออกไป เพราะไม่เอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเท่านั้น
ส่วนในอดีตกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เคยวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย แต่ก็จะไปร่วมรัฐบาลนั้น นายเดชอิศน์ กล่าวว่า ต้องรีเซตประเทศไทย ไม่ใช่โกรธกันตั้งแต่อดีต รุ่นต่อไปก็ต้องโกรธด้วย ต้องมองประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามถึงคุณสมบัติความพร้อมที่จะเป็นรัฐมนตรีของนายเดชอิศน์ มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีปัญหานั้น นายเดชอิศน์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่เคยต้องคดี และมีคุณสมบัติพร้อม แต่จะได้รับตำแหน่งหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส. รวมทั้งจะได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ด้วย พร้อมกันนี้ นายเดชอิศน์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยนัดเจอกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ และไม่เคยพูดคุยกับร้อยเอกธรรมนัสเรื่องการร่วมรัฐบาล เพราะจะร่วมหรือไม่ร่วม เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอื่น
ทั้งนี้นายเดชอิศน์ ยอมรับว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่จะเข้าร่วมหรือไม่ มอบให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ