นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ ว่าขณะนี้ได้เฝ้าระวังพายุไต้ฝุ่นยางิ กำลังเคลื่อนตัวมาจากฟิลิปปินส์ กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) ประเมินทิศทางของพายุว่าจะเคลื่อนตัวมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน คาดว่าจะเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนามวันที่ 6-7 กันยายนนี้ มีการติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้พายุไม่ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย แต่อาจมีอิทธิพลส่งผลให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับวันนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศ จึงคาดว่าช่วง 7 วันข้างหน้านี้ จะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ในภาคเหนือ โดยเฉพาะบริเวณที่ประสบอุทกภัยช่วงที่ผ่านมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.ตราดและจันทบุรี และภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน เตรียมพื้นที่รองรับน้ำในเขื่อนต่างๆ เพื่อรับมือสถานการณ์ฝนไว้แล้ว รวมถึงจะใช้พื้นที่หน่วงน้ำ เช่น ทุ่งบางระกำ บึงบอระเพ็ด เพื่อใช้หน่วงปริมาณน้ำก่อนไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา
นายสุรสีห์ ระบุอีกว่าปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในอัตราประมาณ 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่จากปริมาณฝนคาดว่าจะตกหนักระยะนี้ อาจทำให้ในช่วงวันที่ 9-10 ก.ย.67 ต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตราประมาณ 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มในบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำ พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่นอกคันกั้นน้ำของ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี
สำหรับการเตรียมพร้อมของกรุงเทพมหานคร ได้พร่องน้ำในคลองต่างๆ เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ ระบบสูบน้ำ และเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ ในส่วนการขุดลอกคลอง ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 98%