นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงมาตรการรับมือฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ของทุกปีว่า กทม.เดินหน้าแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2568 โดยประสานทุกหน่วยงานขับเคลื่อนแผนฯ ทั้งในสภาวะปกติและช่วงวิกฤตตามอำนาจหน้าที่ เพื่อรองรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน

ทั้งนี้ กทม. ร่วมมือสสล. สำนักงานเขต สำนักอนามัย และสำนักการโยธา เข้มงวดตรวจสอบการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ตามแผนการตรวจฯ แห่งละ2 ครั้ง/เดือน พร้อมกำชับผู้ประกอบกิจการและผู้รับเหมาก่อสร้างให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งตรวจสอบยานพาหนะในสถานที่ต้นทางและริมเส้นทางจราจรร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษ ในปีงบประมาณ 2567 ได้ตรวจวัดรถยนต์ที่มีควันดำทั้งในสถานที่ต้นทางและริมเส้นทางจราจร จำนวน 161,175 คัน ผลการตรวจสอบไม่ผ่านและสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 945 คัน

ขณะที่ กทม.ได้กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดนำรถเข้าตรวจสภาพรถตามรอบการเช็คระยะ และตรวจวัดมลพิษรถของราชการ รวมถึงกำหนดแผนดำเนินโครงการรถคันนี้ลดฝุ่น ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนนำรถเข้าตรวจสภาพตามระยะ พร้อมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการลดมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ ตลอดจนสนับสนุนรถอัดฟางข้าวให้เกษตรกรยืมใช้ เพื่อลดการเผาวัสดุทางการเกษตร หากประชาชนพบการเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสผ่านระบบ Traffy Fondue หรือโทรแจ้งสำนักงานเขตให้เข้าระงับเหตุ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ สำนักอนามัย (สนอ.) ได้บูรณาการความร่วมมือสำนักงานเขตและหน่วยงานเกี่ยวข้องภายในเดือน พ.ย. 2567 สนอ. จะจัดหาหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ใหญ่ จำนวน 1 ล้านชิ้น ส่งให้สำนักงานเขต 50 เขต รณรงค์และสนับสนุนความพร้อมในการป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยมอบให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง พร้อมทั้งให้แนะนำแก่ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพ ในช่วงค่าฝุ่น PM2.5 มีค่าสูง