พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยกรณีการจับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ว่า ที่ผ่านมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานมาระยะหนึ่งจนแน่นหนา ก่อนจะออกหมายจับ เท่าที่ทราบทนายตั้มและภรรยามีพฤติการณ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ หนีออกนอกประเทศ เพราะอาจรับรู้ว่าตำรวจจะออกหมายจับ เนื่องจากช่วงที่ตำรวจไปขอหมายจับ ทนายตั้มออกจากบ้านย่านตลิ่งชันไปก่อน ขับรถมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก ตำรวจติดตามพร้อมประสานตำรวจทางหลวงในพื้นที่ช่วยสกัดจับก่อนหนีออกนอกประเทศไปได้ และเริ่มสะกดรอยจากสิ่งที่ตำรวจตรวจได้จนพบว่า เริ่มขับรถออกจากกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลตัดสินใจเข้าจับกุม
แต่เนื่องจากสมรรถนะของรถตำรวจไม่เทียบเท่ารถของทนายตั้มและภรรยาที่ใช้เดินทาง และมีแนวโน้มออกนอกประเทศ หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจติดตามยาก
ส่วนทนายตั้มจะข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีบุคคลอื่นให้การช่วยเหลือหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดชกล่าวว่า ประเด็นนี้ยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนการออกหมายจับวานนี้ พบว่าตัวทนายตั้มไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จากกรณีเรื่องเงินเจ๊อ้อยจำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งขณะที่จับกุมทนายตั้มจำนนต่อหลักฐาน ส่วนที่อ้างว่าจะไปปฏิบัติธรรม เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่มีสิทธิจะพูด