ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดี ที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นโจทก์ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อกลั่นแกล้งให้โจทก์ได้รับโทษ
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า แม้จะมีพยานเบิกความสอดคล้องกันเรื่องที่โจทก์ไม่ได้เรียกรับสินบน แต่จำเลยก็ได้รับทราบจากผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้จำเลยเชื่อว่ามีการกระทำความผิดเรื่องการเรียกรับสินบนเกิดขึ้น จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ , ปปป.และ ปปช.การกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อกล่าวหาให้โจทก์ต้องรับโทษ แม้ ปปช.จะชี้มูลความผิดต่อโจทก์และอัยการสูงสุดจะชี้ข้อไม่สมบูรณ์กลับก็ตาม แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จหรือให้ข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน อีกทั้งการเรียกรับสินบนต้องทำโดยปกปิดยากที่จะหาพยานหลักฐานในการตรวจสอบ แม้จำเลยจะเคยมีปัญหาเรื่องการตั้งกรรมการสอบสวนกับโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยได้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว จำเลยจึงไม่มีมูลเหตุจูงใจกล่าวหาโจทก์ให้รับโทษ
ส่วนเรื่องการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ แม้ว่าจำเลยจะมีการรวบรวมเงินมาจริง แต่ก็เป็นการวางแผนจับกุมการส่งมอบเงิน จึงรับฟังได้ว่า จำเลยมีเจตนาทำให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ ไม่ได้มุ่งหมายถึงโจทก์ กรณีจึงไม่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังให้ลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง