เปิดใจ “บรรจง ฉุดพิมาย” จากลูกชาวนา-สู่ผู้นำวงการแรงงานไทย

Hotnews เริ่ม 1 ตุลา 66 (2)-min

นายบรรจง ฉุดพิมาย ประธานที่ปรึกษาสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ล้มได้ ลุกไว ไปต่อ” ถึงเส้นทางในการพัฒนาตนเองและช่วยเหลือสังคม ด้วยการเปลี่ยนชีวิตจากลูกชาวนาสู่บทบาทสำคัญในวงการแรงงานต่างประเทศ

นายบรรจง เริ่มต้นการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนพิมายวิทยา ต่อมาศึกษาในระดับ ปวส.ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลพณิชยการนครราชสีมา และจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นอกจากนี้ เขายังสนใจนิเทศศาสตร์และการทำงานสร้างสรรค์ ซึ่งช่วยเสริมความสามารถในสายอาชีพ

นายบรรจงกล่าวว่า แม้เริ่มจากชีวิตในครอบครัวชาวนาในชนบท ที่แม้จะไม่ได้ยากจนมากแต่ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เขาตัดสินใจออกเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งเรื่องภาษาและวัฒนธรรม

นอกจากนี้ เขายังประสบปัญหาหนักหนาสาหัสจากการล้มละลายของโครงการบางแห่ง ทำให้ต้องแบกรับภาระการจ่ายเงินเดือนและค่าตั๋วเดินทางกลับของคนงานด้วยเงินส่วนตัว ในช่วงหนึ่งที่ต้องทำงานต่อเนื่องทุกวันตลอด 1 ปีเต็มโดยไม่มีวันหยุด เพื่อพิสูจน์ความสามารถและสร้างชื่อเสียงในสายงาน

“ผมเชื่อว่าการศึกษาและการทำงานในต่างประเทศ ไม่เพียงแค่เปลี่ยนชีวิตเรา แต่ยังสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนรอบข้างและชุมชนได้” บรรจงกล่าว

ดังนั้น นายบรรจงชี้ว่า ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในต่างประเทศ ได้สร้างเครือข่ายและช่วยเหลือแรงงานไทยเข้าสู่ตลาดแรงงานสากล โดยเน้นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านภาษา ทักษะวิชาชีพ และความเข้าใจในกฎหมายแรงงานต่างประเทศ

“แรงงานไทยมีจุดเด่นในเรื่องความละเอียดและความอดทน แต่ปัญหาสำคัญคือเรื่องภาษาและการถูกหลอกลวง ซึ่งผมมุ่งมั่นที่จะช่วยป้องกันสิ่งเหล่านี้” นายบรรจงกล่าว

นายบรรจงระบุว่า การจัดหาแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศควรดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมี 5 วิธีหลัก ได้แก่ การส่งผ่านกระทรวงแรงงาน, การจัดหาโดยบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต, การไปศึกษาดูงาน, การเดินทางไปประชุมสัมมนา และการติดต่อโดยตรงกับนายจ้างต่างประเทศ

“การไปทำงานต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย แรงงานไทยจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านภาษา ทักษะวิชาชีพ และความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงหรือเผชิญปัญหาในต่างแดน” นายบรรจงกล่าว

นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญกับในการพัฒนาคน และผลักดันให้เกิดโครงการฝึกอบรมแรงงาน เช่น การเรียนภาษาอังกฤษและการอบรมความปลอดภัย รวมถึงการส่งเสริมให้แรงงานไทยมีการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ

“คาถาความสำเร็จของผมก็คือ ทำงานต่างประเทศต้องมีศักดิ์ศรี ต้องไม่มียาเสพติด ต้องไม่เล่นการพนัน ไม่เมาเหล้าขาดงาน ไม่ท่องเที่ยวราตรี ทำบัญชีครัวเรือน แล้วเลือกคนดีๆ” นายบรรจงฝากข้อคิดทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงงานไทยที่สนใจทำงานในต่างประเทศต้องตรวจสอบข้อมูลและติดต่อหน่วยงานที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงและปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

 

แท็ก