นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ให้สัมภาษณ์ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 จากกรณีที่รัฐบาลได้อนุมัติหลักการกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งรวมถึงกาสิโนในประเทศ ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเร่งรีบและความไม่รอบคอบในขั้นตอนการดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ส่วนในข้อกังวลหลักคือความไม่ชัดเจนของรัฐบาล ในการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากกฎหมายนี้ ซึ่งแม้จะได้รับการผลักดันจากหลายฝ่าย แต่ก็ยังมีความไม่มั่นใจในความรัดกุมของการศึกษาผลกระทบทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนสถานบันเทิงที่จะเปิด และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนี้ นอกจากนี้ได้ตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลได้ศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจอย่างละเอียดหรือไม่ก็ยังคงเป็นคำถามที่หลายฝ่ายต้องการคำตอบ

คณะกรรมการกฤษฎีกาได้แสดงความห่วงใย เกี่ยวกับการที่กฎหมายไม่ชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินการนี้ เช่นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหรือการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย โดยไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าเจตนาหลักคืออะไร ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เกิดความคลุมเครือในนโยบาย

ส่วนประเด็นที่ถูกพูดถึงคือความคุ้มครองประชาชนจากผลกระทบของการพนัน โดยในกฎหมายไม่ได้มีการกล่าวถึงมาตรการที่ชัดเจนในการดูแล หรือเยียวยาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดกาสิโนในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการพูดถึงการสร้างหน่วยงานที่ดูแลธุรกิจกาสิโน แต่ไม่มีการกำหนดวิธีการดูแล และจัดการกับผลกระทบจากการพนันที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงข้อกังวลในเรื่องการให้สินเชื่อแก่ผู้เล่นการพนัน ที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพการเงินของประชาชน

นอกจากนี้ นายธนากร พูดถึงกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พูดถึงการลงทุนในโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (entertainment complex) ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนระหว่าง 100,000 ถึง 200,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมประมาณ 10,000 ถึง 40,000 ล้านบาท โดยหวังว่าการลงทุนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาอาชญากรรม รวมถึงปัญหาพนันออนไลน์

ขณะเดียวกันก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับการคำนวณภาษีที่ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดอัตราภาษีอย่างชัดเจน และต้องรอการพิจารณาจากบอร์ดนโยบาย (superboard) อีกทั้งยังไม่ได้กำหนดจำนวนสถานบันเทิงครบวงจรที่ชัดเจน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ตัวเลขที่รัฐบาลอ้างถึงมาจากไหน ทั้งที่ไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีสถานที่เหล่านี้จำนวนกี่แห่ง

อย่างไรก็ตามข้อห่วงใยจากฝ่ายต่างๆ ยังสะท้อนถึงความไม่ชัดเจนและการขาดการศึกษาผลกระทบอย่างครอบคลุม โดยหลายฝ่ายเชื่อว่ารัฐบาลควรจะให้ความสำคัญกับการศึกษาผลกระทบในทุกด้านอย่างจริงจัง และรัดกุมมากกว่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อสังคมและประชาชนในระยะยาว