นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 เกี่ยวกับปัญหาขยะพิษที่รุนแรงในประเทศไทย โดยระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2567 มีปัญหาขยะพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์ลักลอบนำเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนในหลายพื้นที่

นายชีวะภาพกล่าวว่า ประเทศไทยกำลังถูกมองว่าเป็น “บ่อขยะโลก” เนื่องจากมีกลุ่มทุนลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์และสารพิษเข้ามาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวอย่างล่าสุดพบว่ามีการนำชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูง เช่น แผงวงจรทองคำขาว มาชำแหละในจังหวัดปราจีนบุรี ขณะที่เศษขยะที่เหลือจากการชำแหละซึ่งมีสารโลหะหนักสูงถูกทิ้งลงดินและน้ำ ส่งผลเสียร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

อีกทั้งขยะเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งเดิมควรถูกกำจัดในโรงงานมาตรฐานในประเทศต้นทาง แต่กลับถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากมาตรการบังคับใช้กฎหมายในประเทศยังไม่เข้มงวดพอ

นายชีวะภาพระบุว่า ปัญหาใหญ่ที่ทำให้สถานการณ์แย่ลงคือการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่เข้มข้นพอ และมีกรณีการจ่ายสินบนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่าเรือและโกดังร้างที่ใช้ซุกซ่อนขยะ

ในส่วนการรับมือกับปัญหาดังกล่าว คณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมได้ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการพาณิชย์และอุตสาหกรรม รวมถึงคณะกรรมาธิการตำรวจและกฎหมาย โดยตั้งเป้าหมายพัฒนากฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การเพิ่มบทลงโทษ การยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด และการประกาศให้คดีขยะพิษเป็น “คดีพิเศษ”

นายชีวะภาพยังเน้นถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังของกลางในพื้นที่และการปรับปรุงมาตรการตรวจสอบของกรมศุลกากร เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะพิษเล็ดลอดเข้ามาในประเทศ พร้อมทั้งผลักดันให้มีการจัดตั้ง “ศาลสิ่งแวดล้อม” เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดี

นายชีวะภาพ กล่าวทิ้งท้ายว่า การสร้างระบบบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งและลงโทษอย่างเด็ดขาดเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหา พร้อมเตือนว่าหากไม่มีการจัดการที่เด็ดขาด ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางขยะพิษของโลกอย่างสมบูรณ์