รศ.นพ.เพชร รอดอารีย์ นายกสมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “สุขภาพดี 4 ทุ่ม” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM100.5 ถึงปัญหาภาวะโรคอ้วนในเด็กไทย ซึ่งเพิ่มขึ้น 42% อย่างน่ากังวล พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันโรคร้ายในอนาคต
รศ.นพ.เพชร เปิดเผยว่า เด็กไทยอายุต่ำกว่า 14 ปี มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนถึง 10-15% และคาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในอนาคต หากไม่มีการแก้ไข เด็กอ้วนมีแนวโน้มที่จะอ้วนต่อไปในวัยผู้ใหญ่ และมีความเสี่ยงสูงต่อโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ไตวายและโรคหัวใจ
ฉะนั้น การเพิ่มขึ้นของเด็กอ้วนเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงอิทธิพลของโฆษณาและอินฟลูเอนเซอร์ ที่กระตุ้นให้เด็กเลือกบริโภคอาหาร และขนมที่ไม่เหมาะสม เช่น ขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน และอาหารไขมันสูง ประกอบกับพฤติกรรมเนือยนิ่ง เช่น การใช้เวลากับหน้าจอมือถือและแท็บเล็ตมากเกินไป ส่งผลให้เด็กขาดการออกกำลังกาย นอกจากนี้ การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ ยังส่งผลต่อระบบฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้เด็กกินมากขึ้นและอ้วนง่าย
รศ.นพ.เพชร ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของครอบครัว โดยผู้ปกครองต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการกินอาหารและส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ แนวทางสำคัญคือ การผลักดันร่างกฎหมายควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลเสียต่อสุขภาพเด็ก ซึ่งจะช่วยลดการเข้าถึงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้ผู้ผลิตปรับสูตรอาหารให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
สมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทยได้ริเริ่มแคมเปญ “ค่ายเด็กอ้วน” ซึ่งมุ่งเน้นให้ความรู้แก่เด็กและผู้ปกครองเกี่ยวกับการเลือกอาหารที่เหมาะสม การอ่านฉลากโภชนาการ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้สมดุล
สามารถติดตาม แคมเปญหรือโครงการใหม่ได้ที่ https://www.thaincd.org/ และ facebook สมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย
อย่างไรก็ตาม สุขภาพของเด็กในวันนี้ คืออนาคตของชาติในวันข้างหน้า พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ไขวิกฤตเด็กอ้วน ทั้งครอบครัว โรงเรียน สังคม และภาครัฐ ร่วมมือกันแก้ปัญหาเด็กอ้วน เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีและลดภาระโรคในอนาคต