พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.สอท.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผู้บังคับการตำรวจสอบสวนกลาง 4 (ผบก.สอท.4) เปิดเผยถึงกรณีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา จำนวน 260 คน ซึ่งได้เดินทางกลับเข้าประเทศไทยแล้ว โดยระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้มีการส่งตำรวจไซเบอร์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มเหยื่อ
จากการตรวจสอบข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ดังกล่าว พบว่ามีผู้ถูกหลอกลวงไปทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์จำนวนมาก โดยมีเพียง 2-3 คนที่สมัครใจไปทำงาน ส่วนข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนครั้งนี้แตกต่างจากรายงานเบื้องต้นที่ระบุว่าเหยื่อมีเพียง 1 คนเท่านั้น ดังนั้นทางตำรวจไซเบอร์จึงขออภัยในความผิดพลาดดังกล่าว
พยานหลักฐานที่เก็บได้ประกอบด้วยข้อมูล IMEI ของโทรศัพท์มือถือจำนวน 107 หมายเลข และข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ 35 เครื่อง ซึ่งจะถูกนำไปตรวจสอบและวิเคราะห์เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซนเตอร์และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือในประเทศอื่น หากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายที่มีโทษรุนแรง
สำหรับการคัดกรอง NRM จะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจภูธรจังหวัดตากรับผิดชอบในการคัดกรองเหยื่อ ส่วนตำรวจไซเบอร์จะมีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อขยายผลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ หากพบว่า 260 คนที่ถูกส่งกลับมีสถานะเป็นเหยื่อ จะได้รับการยกเว้นจากการดำเนินคดีในบางข้อหา ส่วนผู้ที่สมัครใจไปทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หากมีการพบว่ามีคนไทยเข้าไปช่วยเหลือแก๊งคอลเซนเตอร์เหล่านี้ ก็จะดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หากพบว่าเป็นการกระทำผิดในประเทศไทย