กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คาดการณ์ว่าช่วงปลายสัปดาห์นี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 ในหลายพื้นที่ของประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ตรวจสอบค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้าน และสวมหน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐานเพื่อป้องกันฝุ่นละออง
ด้านนพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า ฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือดและส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและหัวใจ โดยหน้ากากที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือ N95 ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาด 0.3 ไมครอนได้ประมาณ 95% รองลงมาคือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ป้องกันได้ 50-70% พร้อมแนะนำให้ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น เช่น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและการเผาไหม้
นอกจากนี้ การอยู่ในอาคารที่ปิดมิดชิดหรือใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นแนวทางลดการรับฝุ่นได้ดีที่สุด ขณะที่อุปกรณ์อื่นๆ เช่น แผ่นกรองรูจมูก หรือเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา อาจมีประสิทธิภาพจำกัด สธ. ยังแนะนำให้ปลูกต้นไม้ที่ช่วยดักจับฝุ่น เช่น โมก ไทรเกาหลี และหางนกยูงไทย เพื่อลดปริมาณฝุ่นในอากาศ