นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ย่านจตุจักร ถล่ม ว่าคณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้วางกรอบการทำงานครบถ้วนแล้ว พร้อมรายงานต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนถึงหนึ่งในสาเหตุ ซึ่งสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานของ ศ.กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิตด้านวิศวกรรมโครงสร้าง ที่เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ แม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่การวิเคราะห์ของทั้งคู่สอดคล้องกัน
นายอนุทินระบุว่า การตรวจสอบจะยึดหลักวิศวกรรมศาสตร์และการคำนวณเชิงวิทยาศาสตร์ ไม่ใช้ดุลพินิจ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือการออกแบบอาคารที่ไม่สมมาตร ซึ่งเมื่อเกิดแผ่นดินไหว จะทำให้เกิดแรงบิดเพิ่มเติมต่อโครงสร้าง จึงต้องตรวจสอบว่าอาคารมีค่า Safety Factor ที่เพียงพอตามกฎหมายหรือไม่
ในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง จะเน้นตรวจสอบด้านวิศวกรรม ขณะที่ประเด็นเกี่ยวกับทุจริตหรือการฮั้วประมูลเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น โดยคณะกรรมการตรวจสอบประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันที่น่าเชื่อถือ และต้องใช้เวลา 90 วันในการสรุปผลเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่มีข้อโต้แย้ง
นอกจากนี้การปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็น หากเป็นจริงถือเป็นเรื่องร้ายแรง และจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตรียมเชิญกรมโยธาธิการและผังเมืองมาหารือเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยเฉพาะการควบคุมการใช้ใบอนุญาตวิศวกรที่ออกโดยสภาวิศวกรภายใต้การกำกับของกระทรวงมหาดไทย
ด้านความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ กรมบัญชีกลางได้อนุมัติข้อเสนอของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว จากเดิมรายละกว่า 20,000 บาท เพิ่มเป็น 100,000 บาท โดยในวันพรุ่งนี้ ปภ. จะเริ่มมอบเงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้มอบให้