นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีวาาการกระทรวงมหาดไทย เผยถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะดึงกระทรวงมหาดไทยกลับคืนว่า เห็นข่าวตามหนังสือพิมพ์ แต่ไม่มีความกังวล เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลมาด้วยกัน พรรคภูมิใจไทย มี สส. 71 คน เราก็ยกมือสนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาถึง 2 คนแล้ว คือนายกฯเศรษฐา ทวีสิน และ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นสิ่งที่เรามาร่วมรัฐบาลจนถึงทุกวันนี้ ทำงานร่วมกันก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ตอบสนองข้อสั่งการของนายกฯ ในทุกเรื่อง ยืนยันว่า นายกฯแพทองธาร ยังไม่เคยพูดเรื่องปรับ ครม.
“ผมยังงงอยู่เลยว่า สัญญาณปรับ ครม. ส่งไปที่สำนักข่าวหรือผู้วิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่มาถึงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถามหัวหน้าพรรคร่วมคนไหนก็ไม่มีใครบอกว่าได้รับสัญญาณใดๆ ทุกคนยังมีความตั้งใจ เต็มใจในการปฏิบัติหน้าที่สนองนโยบายของนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล” นายกฯแพทองธาร นายอนุทิน กล่าว
การปล่อยข่าวแบบนี้เป็นการเขย่าเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย และพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “โอ้โห ต้องใช้แรงเยอะนะ ไม่น่าจะมีเรื่องพวกนี้ จะเขย่าทำไม ต่างคนต่างทำงาน ไม่เห็นมีปัญหาอะไรในการทำงาน ทำงานร่วมกันมาจะ 2 ปีอยู่แล้ว ทุกคนก็ทำงาน ก็ได้รับเกียรติ และนายกฯ ก็สั่งงานตลอดเวลา เช่น เรื่องตึก สตง. ถล่ม ก็ติดตามให้กรมโยธาธิการ ของกระทรวงมหาดไทย เร่งหาสาเหตุให้ชัดเจนโดยเร็ว ตอนนี้ในภาควิชาชีพต่างๆ ก็เริ่มเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากจุดไหน”
ส่วนผลนิด้าโพล ที่ออกมาว่าควรปรับ ครม. โดยกระทรวงมหาดไทยอยู่ลำดับที่ 6 นายอนุทิน กล่าวว่า โล่งอก เรื่องปรับ ครม. ขอเป็นบ๊วย
ส่วนที่มีกระแสข่าวตัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า อย่างที่บอกมาด้วยกันอย่างดี พรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และเป็นพรรคที่ประกาศประกาศชัดเจนว่าในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน ถ้านายกฯ ไม่ทำผิดกฎหมายใด ไม่ทำผิดจริยธรรมหรือศีลธรรมใด ถ้าถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสภาฯ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรกที่ออกมาบอกว่าจะปกป้อง และให้ความไว้วางใจ สนับสนุนการทำงานของนายกฯ โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ
เมื่อถามย้ำว่า ตามสมการ สามารถปรับออกได้จริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะไปดูคณิตศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ มันต้องดูเรื่องความผูกพัน ความร่วมมือในการทำงาน และความตั้งใจที่จะร่วมรัฐบาล ถ้าจำได้พรรคภูมิใจไทยถูกเชิญให้ไปร่วมรัฐบาล ในช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม 2566 เมื่อมีการหารือกันเราก็เห็นว่าน่าจะร่วมกันทำงานได้ดี ก็ร่วมรัฐบาลและยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องปรับเปลี่ยนอะไร เพราะการทำงานไม่มีปัญหา ยังว่าทำไมฝั่งสื่อถึงมีการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
ส่วนพรรคภูมิใจไทยถูกมองว่ามีอำนาจต่อรองมาก นายอนุทิน ยืนยัน ไม่มีคำว่าต่อรองอะไรทั้งสิ้น ถ้าต่อรองก็คงไม่มีอยู่แค่นี้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่า ก่อนสงกรานต์ได้มีการไปรับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแขกจากต่างประเทศที่เคยรู้จักกัน ซึ่งการพูดคุยวันนั้นไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะตนก็เป็นรู้จักกับแขกของนายทักษิณด้วย ไม่มีนักการเมือง ไม่มีรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องส่วนตัว
เมื่อถามย้ำว่า สัมพันธ์ยังแน่นปึ้กใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมขยันวิเคราะห์กันจัง