นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กประกาศเดินหน้าเชิญ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เข้าชี้แจงเพิ่มเติมในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ปมการแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112 กับนายพอล แชมเบอร์ส ท่ามกลางเสียงกดดันจากสังคมที่ตั้งคำถามต่อการใช้กฎหมายอย่างมีนัยยะ
นายวิโรจน์ระบุชัดเจนว่า การชี้แจงก่อนหน้านี้ของ พล.ต.วินธัย ยังมีหลายข้อพิรุธที่ต้องคลี่คลาย โดยย้ำว่าการปรากฏตัวในที่ประชุมครั้งนี้ “ไม่ควรปิดไมค์หนี” ก่อนจบวาระ พร้อมเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา
ในโพสต์ดังกล่าว นายวิโรจน์สรุปข้อสังเกตสำคัญ 3 ประการที่ พล.ต.วินธัยต้องอธิบายอย่างชัดเจน ได้แก่
อำนาจในการแจ้งความในนามหน่วยงานรัฐ ว่ายึดโยงกับมาตราใดใน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือไม่ เนื่องจากการกระทำในนามหน่วยงานรัฐต้องมีอำนาจตามกฎหมายรองรับอย่างเคร่งครัด
ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน โดยเฉพาะการนำข้อมูลจากเว็บไซต์ ISEAS-Yusof Ishak Institute มาใช้ยื่นแจ้งความ ซึ่งหากอ้างอิงเพียงสรรพนาม “He” อาจไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินคดีอาญาร้ายแรงเช่นนี้
เหตุผลที่ กอ.รมน.ภาค 3 ไม่แจ้งความกับผู้เผยแพร่ต้นฉบับภาษาไทยคือบัญชีเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” ทั้งที่มีการแปลข้อความและเผยแพร่ในวงกว้าง รวมถึงข้อสงสัยว่า การแปลดังกล่าวได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการทหารยังเชิญ ร.ต.อ.พรชัย ปลั่งกลาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เจ้าของสำนวน, พ.ต.อ.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก และตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมประชุม เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบมีความรัดกุมและโปร่งใสมากที่สุด
นายวิโรจน์ทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำเชิงท้าทายว่า “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.ต.วินธัย สุวารี จะศึกษาและทำความเข้าใจหลักการกฎหมายมหาชน รวมถึง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาล่วงหน้า และจะไม่หลีกเลี่ยงการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ด้วยการปิดไมค์หนีก่อนจบการประชุมเหมือนที่ผ่านมา”
การเชิญชี้แจงครั้งนี้ จึงถูกจับตามองว่าจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการพิสูจน์ความโปร่งใสของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายในคดีที่มีความอ่อนไหวสูงเช่นนี้