“ฟิลิปปินส์จริงๆ แล้วเป็นมิตรที่ดีกับเรา และชาวฟิลิปปินส์ที่เข้ามาอย่างถูกต้องก็มีจำนวนมาก กทม.ก็มีครูฟิลิปปินส์ที่เข้ามาสอนภาษาอังกฤษจำนวนมาก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนน้อยที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่เรื่องระดับประเทศ เชื่อว่าชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนที่ดีกับเรา และทำถูกกฎหมายจำนวนมาก แต่หากพบว่าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้นเช่นกัน สำหรับเรื่องของสถานการณ์การทะเลาะกันของชาวไทยและฟิลิปปินส์เมื่อคืนนี้ ขอให้เรื่องดังกล่าวจำกัดเป็นแค่เรื่องของกลุ่มคน ไม่ดึงมาเป็นปัญหาระดับชาติ และมาช่วยกันดูว่าจะนำเรื่องนี้มาเป็นบทเรียนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขได้อย่างไรบ้าง อำนาจ กทม.หลักๆ คงดูเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีการส่งเสียงดัง ดื่มสุรา หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เราคงต้องไปดู แต่หากเป็นเรื่องการเข้าเมืองคงต้องเป็นหน่วยงานอื่นเข้ามาดูแลสุขุมวิทเหมือนกับถนนนานาชาติเพราะมีทุกชาติมาเดิน การสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ กทม.คงต้องเข้มข้นในการดูแลโดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากด้วย”
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์เรื่องทะเลาะบริเวณถนนสุขุมวิทเมื่อคืนนี้ ขณะลงพื้นที่ถนนสุขุมวิทพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงเย็นของวันนี้ (5 มี.ค.67) พร้อมกล่าวว่า กทม.ต้องเข้ามาดูเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยเส้นทางสุขุมวิทนี้ก็ได้มีโอกาสมาบ่อย ช่วงเช้ามืดอาจมีเสียงดังบ้าง มีขยะ คนไร้บ้านที่กทม.ต้องดูแลอยู่ แต่ในเรื่องอื่น คงต้องถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกทม.เองก็มีภารกิจที่ต้องดูแลหลายเรื่อง เทศกิจก็ต้องดูแลหลายส่วน คงต้องร่วมมือกันหลายภาคส่วน อย่างสคบ.ก็ต้องเข้ามาดูเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า การดูแลการค้าโดยชาวต่างชาติในพื้นที่ซึ่งจะเกี่ยวกับเรื่องของแรงงานที่ผิดกฎหมาย เรื่องของชาวฟิลิปปินส์ไม่ได้มีการแจ้งร้องเรียนมาที่กทม.เพราะอาจมองว่ากทม.ไม่ได้มีอำนาจในการดูแล จะมีเพียงเรื่องหาบเร่แผงลอย การขายน้ำผลไม้ในพื้นที่เท่านั้นที่ได้รับแจ้งมา สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เมื่อคืนก็จะเข้าไปดูอีกครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ ในส่วนของโรงแรมที่จัดให้มีการเข้าพักของต่างชาติก็คงต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ดูแลอยู่
ผู้ว่าฯกทม. ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่กังวลในขณะนี้ ว่า เรื่องของยาเสพติด อย่างเช่น กัญชา ซึ่งพบจำนวนมาก และอาจมีผลกับการท่องเที่ยว ต้องดูแลอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้เข้าถึงกลุ่มเยาวชน และปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งพบว่าในขณะนี้เข้าไปถึงโรงเรียนของกทม.แล้ว เพราะสามารถหาซื้อได้ง่าย หลายหน่วยงานต้องร่วมกันดูแล สุดท้ายแล้วเรื่องการบูรณาการเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานมาเพื่อให้ทุกฝ่ายคุยกันแบบไร้รอยต่อ
ด้านผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า จากนี้จะเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น และผบชน.สั่งการให้ดูแลทุกมิติให้เข้มข้นมากขึ้น ขณะนี้ถูกจับกุม 4 คน ส่วนการแจ้งข้อหาอยู่ระหว่างการพิสูจน์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
จากนั้นคณะฯ ประกอบด้วย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี นางสาววิลาวัลย์ ธรรมชาติ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตวัฒนาและคลองเตย พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี ผู้แทนตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ถนนสุขุมวิท ทั้ง 2 ฝั่ง ในพื้นที่เขตคลองเตย และเขตวัฒนา โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ทางเดินฟุตบาท คนไร้บ้าน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร