ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงถึงราคาสินค้าทางการเกษตรว่า เมื่อประกาศทำสงครามกับสินค้าเถื่อน โดยเฉพาะยางเถื่อนที่จับได้ทุกสัปดาห์ตามแนวตะเข็บชายแดนเพื่อนบ้าน และด้วยความโชคดีของพี่น้องชาวยางที่เรามีฝ่ายตรวจสอบที่เป็นกรรมาธิการ และฝ่ายบริหารคือกระทรวงเกษตรฯ และนายกฯที่กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงต้องปราบปรามอย่างเอาจริงเอาจัง พอเราประกาศเอาจริงไม่ให้มีทรานซิส พอเราทำแบบนี้ยางเถื่อนสีดำเข้าไม่ได้ ยางทรานซิสบางประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาเข้าไม่ได้ ปริมาณยางจึงลดลงอย่างที่เราเห็น ดังนั้นที่ราคายางสูงขึ้นจึงสอดคล้องกันคือ ดีมานด์ซัพพลายสมดุลกัน ทำให้ยางราคากระเตื้องขึ้น

ทั้งนี้ส่วนอียูดีอาร์นั้น ไทยเรามีอุตสาหกรรมสวนยาง ถือว่าเรายึดตลาดโลกแล้ว เราเป็นผู้นำทางด้านยางพาราได้แล้ว นอกจากนี้ การยางแห่งประเทศไทยยังมีการสำรวจปรับปรุงฐานข้อมูลเกษตรชาวสวนยาง โดยให้มีการระบุพิกัดแปลง ซึ่งดำเนินไปแล้ว 90% ดังนั้นปริมาณสั่งยางจากประเทศเพื่อบ้านหรือประเทศอื่นๆ ที่มีการปลูกยางเหมือนเราเขาไม่ชัดเจนเหมือนเรา นี่จึงเป็นเหตุและผลหนึ่งที่ทำให้ราคายางเรายกระดับขึ้น

ขณะที่ราคายางที่ดิ่งลงเหว ไม่ต้องพูดถึงในเรื่องที่ผ่านมา แต่เราจะพูดนโยบายที่ตอนนี้เรามาถูกทางแล้วคือต้องทำทุกเรื่อง เจรจากับพ่อค้ายางบริษัทใหญ่ๆ ต้องเจรจา ตนจึงตั้ง กรอ. ขับเคลื่อนราคาพืชผลทางการเกษตร ปลายปี 66 โดยการนำของรัฐบาลนายเศรษฐามาบริหารและประกาศชัดเจนว่าเราเอาจริงเอาจัง ราคายางมันจึงดีดขึ้นๆ ดังนั้นที่นายกฯพูดตลอดว่ายางราคาดีแบบนั้น ท่านพูดถูกต้องแล้ว