นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัล วอลเล็ท ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดรายละเอียดเกณฑ์ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ดังนี้ เกณฑ์อายุ 16 ปี จะต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 เกณฑ์รายได้วัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ณ ปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 8.4 แสนบาทต่อปี
ทั้งนี้ เกณฑ์เงินฝากกำหนดไม่เกิน 5 แสนบาท นับเฉพาะเงินฝากสกุลบาทรวมกันทุกบัญชี ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อาทิ บัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก เงินฝากกระแสรายวัน แต่ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์ สลากออมสิน เป็นต้น สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตอนนี้ไม่สามารถถอนเงินออกไปได้ทันแล้ว ทั้งนี้ การลงทะเบียนจะเริ่มต้นภายในไตรมาส 3 ส่วนเกณฑ์ซื้อสินค้า ยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิม ยกเว้นบริการและสินค้าต้องห้าม เกณฑ์ร้านค้าขนาดเล็ก ยังเป็นเหมือนเดิม เข้าร่วมได้ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับการเชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงาน อีกทั้ง ยังหารือเรื่องระบบ โดยจะใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในการใช้จ่ายโครงการ ซึ่งจะต้องดำเนินการให้ละเอียดเพื่อให้ประชาชนที่สามารถเข้ามาใช้ได้อย่างเข้าใจ ไม่เป็นอุปสรรค รวมทั้งยังมีการหารือเรื่องข้อมูล ตามตรวจสอบโครงการ
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งได้เข้าประชุมนัดแรกหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง ได้มีข้อคิดเห็นเรื่องระยะเวลาการลงทะเบียน และการดำเนินการที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ป้องกันการทุจริต และการคอรัปชั่น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แต่งตั้งอนุกรรมการติดตามการใช้จ่ายเงินดิจิทัล วอลเล็ตผิดประเภทเพื่อป้องการข้อกังวลต่างๆ ในการทุจริตผ่านโครงการ