สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงาน ผลสำรวจระดับชาติจากสถาบันวิจัยผลกระทบแห่งมูลนิธิครอบครัววอลตัน ซึ่งเป็นมูลนิธิครอบครัวของแซม วอลตัน ผู้ก่อตั้งวอลมาร์ต (Walmart) พบว่านักเรียนและครูอาจารย์ในสหรัฐฯ นิยมใช้งานแชทบอทพลังปัญญาประดิษฐ์ (AI chatbot) หรือเอไอ แชทบอตในการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2023
การสำรวจช่วงวันที่ 7-15 พ.ค. ซึ่งเป็นการสำรวจทัศนคติของครูอาจารย์และนักเรียนต่อแชทบอทพลังปัญญาประดิษฐ์ ครั้งที่ 2 ของมูลนิธิฯ นับตั้งแต่ปีก่อน พบการถกเถียงเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นและความแพร่หลายของปัญญาประดิษฐ์ในการศึกษาและแวดวงอื่นๆ แต่การถกเถียงเหล่านี้ขาดมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ ได้แก่ พ่อแม่ นักเรียน และครูอาจารย์
สัดส่วนครูอาจารย์ที่เผยว่าพวกเขาคุ้นเคยกับแชตจีพีที (ChatGPT) แชทบอทพลังปัญญาประดิษฐ์จากโอเพนเอไอ (OpenAI) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 55 เป็นร้อยละ 79 ขณะสัดส่วนดังกล่าวของนักเรียนระดับอนุบาลถึงมัธยมปลาย (K-12) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับปีก่อน
การสำรวจพบราวร้อยละ 75 ในแต่ละกลุ่มนักเรียน ครูอาจารย์ และพ่อแม่ผู้ปกครอง เผยว่าเคยใช้งานแชทบอทพลังปัญญาประดิษฐ์แบบส่วนตัวหรือที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน ขณะเดียวกันราวครึ่งหนึ่งของแต่ละกลุ่มเผยว่าใช้แชทบอทพลังปัญญาประดิษฐ์หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
ส่วนใหญ่ของครูอาจารย์ พ่อแม่ผู้ปกครอง และนักเรียนกลุ่มสำรวจยังเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์มีผลกระทบเชิงบวกต่อการศึกษาและจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของนักเรียนในอนาคต โดยมากกว่า 8 ใน 10 จากแต่ละกลุ่มตัวอย่างคิดว่าเทคโนโลยีในการศึกษามีผลกระทบเชิงบวก และส่วนใหญ่กังวลว่าอเมริกาเดินหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์เร็วเกินไป
คณะนักวิจัยระบุว่าแม้มุมมองเชิงลบต่อปัญญาประดิษฐ์พุ่งขึ้นในปีก่อน แต่นักเรียน ครูอาจารย์ และพ่อแม่ผู้ปกครองรู้สึกเชิงบวกในภาพรวมทั่วไป โดยพวกเขารู้สึกเชิงบวกในการใช้เทคโนโลยีที่โรงเรียน โดยเฉพาะหากพวกเขาใช้มันด้วยตนเอง
ขณะเดียวกันครูอาจารย์ พ่อแม่ผู้ปกครอง และนักเรียนระดับอนุบาลถึงมัธยมปลายส่วนใหญ่ไม่คิดว่าโรงเรียนทำอะไรเกี่ยวกับปัญญาดิษฐ์มากนัก แม้มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่เผยว่าโรงเรียนไม่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ได้จัดการอบรมครูอาจารย์ และไม่ได้ตอบสนองความต้องการของนักเรียนที่อยากประกอบอาชีพที่ต้องใช้ปัญญาประดิษฐ์