นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้“ส่งออกสินค้าไทย-จีน

f

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนในปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 387,118.31 ล้านบาท นับเป็นร้อยละ 41.92 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยทั้งหมด ขยายตัวร้อยละ 6.19 ในจำนวนนี้ เป็นมูลค่าการส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง สูงถึง 213,593.8 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 26.14 เป็นมูลค่าส่งออกทุเรียนสดจำนวน 137,477.75 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 29.65 ตลาดจีนจึงมีความสำคัญสำหรับสินค้าเกษตรของไทยเป็นอย่างมาก

ตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้“ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง การส่งเสริมตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนจึงมีความสำคัญสำหรับพี่น้องเกษตรกรไทยเป็นอย่างมาก หากพิจารณาตัวเลขการค้าผ่านแดน พบว่า จีนเป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 1 ในปี 2566 มีมูลค่าการค้า 423,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 44.09 นับเป็นการส่งออกทุเรียนสดมากสุด 93,692 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 81.7 โดยด่านศุลกากรสำคัญในการส่งออกทุเรียนสดไปจีน ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร นครพนม และเชียงของ ปี 2567 “ทีมไทยแลนด์” ยังเดินหน้าด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ ใช้การตลาดนำ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรไทย

ในฐานะผู้แทนการค้าไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เจรจากับทางการจีนเพื่อเปิดตลาดสินค้าเกษตรเพิ่มเติม เช่น ทุเรียนเฟรชคัต สัปปะรดเฟรชคัต เป็นต้น นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) และการเชื่อมโยงเอกสารส่งออก–นำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน ผ่านแดนแบบครบวงจร รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนในรูปแบบต่าง ๆ

ประเภท : เศรษฐกิจ
แท็ก