นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตปรับลดวงเงินโครงการเหลือ 4.5 แสนล้านบาทนั้น ว่าเกิดจากการ ประเมินตัวเลขจากหลายโครงการก่อนหน้านี้ของรัฐบาล ที่ปกติประชาชนไม่ได้ลงทะเบียนรับสิทธิกันเต็ม 100% อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ชิมช้อปใช้ มีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการกว่า 80-90% เท่านั้น ซึ่งมีหน่วยงานเศรษฐกิจ ชี้แนะมาว่าไม่ควรตั้งงบประมาณมากเกินความจำเป็น เพราะทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาด้านอื่นๆ คณะอนุกรรมการจึงทำการประเมินตามข้อเท็จจริง เสนอกรอบแหล่งเงินที่ 4.5 แสนล้านบาท แต่ถ้ามีคนลงทะเบียนเกิน เรายังปรับเงื่อนไขเพิ่มตามไปได้ กระทรวงการคลังยังคงประมาณการผลของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามเดิม อยู่ที่ 1.3-1.8% ของจีดีพีประเทศ
ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด จะต้องทำให้มีผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจมากสุด เช่น การเพิ่มเติมห้ามซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สื่อสาร เนื่องจากต้องการให้เม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศมากขึ้น เพราะสินค้าเหล่านี้มีสัดส่วนการนำเข้าสูง เป็นต้น
เบื้องต้นมีรายงานว่า คณะอนุกรรมการกำกับโครงการขับเคลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กำหนดรายงานสินค้า Negative List ที่ไม่ได้เข้าร่วมเงินดิจิทัล 10,000 บาท รวม 19 กลุ่ม ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ บริการต่างๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์มือถือ สมาร์ตโฟน