ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ ที่มีนายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานอนุ กมธ. โดยได้เชิญนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง , บริษัทเอกชน , ตัวแทนนักวิชาการ , สภาทนายความ และตัวแทนผู้ได้รับความเดือดร้อนแต่ละจังหวัดมาให้ข้อมูล
ซึ่ง นายแพทย์วาโย ได้ถามว่าสรุปแล้วปลาหมอคางดำมันมาจากที่ไหน หรือใครเอาเข้ามา ตัวอย่างปลาที่เป็นขวดโหล 25 ตัว ที่ทางบริษัทซีพีเอฟแถลงข่าวมาว่าได้มอบให้ทางกรมประมงไปแล้ว แต่ทางอธิบดีก็ยืนยันว่าไม่มีสมุดคุม ต้นขั้ว แต่ท่านรองฯ ท่านมารายงานว่าน้ำท่วมไปหรือไม่ ปี 2554 เดี๋ยวเราจะต้องขออนุญาตท่านไว้ก่อนว่าเราอยากไปเยี่ยมกรมประมง ไปดูห้องเก็บตัวอย่างหน่อย
ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. ในฐานะรองประธาน กมธ. ถามอธิบดีว่า เรื่องบริษัทเอกชนที่ตอบโต้กลับมาว่ามีการส่งออกปลาพันธุ์นี้ไปยังประเทศอื่นในปี 2556-2560 จริงเท็จอย่างไร ซึ่งมีข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผย จึงอยากให้ชี้แจง เรื่องการส่งตัวอย่างในการตรวจสอบว่าปลาที่ดองไว้ในขวดโหลจะมีกระบวนการอย่างไร และตนอยากทราบว่ากรมประมงใช้งบไปเท่าไหร่ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงแนวทางที่ถูกต้องในการนำเข้าปลาต่างถิ่นเข้ามา และการติดตามต้องทำอย่างไร
ด้านอธิบดีกรมประมง ตอบว่า ข้อมูล ณ วันนี้ที่กรมประมงมีที่พอจะเห็นร่องรอย มีบริษัทเดียวที่ขอนำเข้า เดือน ก.ย. ปี 2553 พร้อมตอบรับคำเชิญอนุ กมธ.ไปที่กรมฯ “กรมประมงเป็นกลุ่มโปร่งใส เปิดเผย ตรวจสอบได้ เชิญครับ ไปเยี่ยมกรมประมง วันไหนที่ไปก็ขอให้บอกล่วงหน้าสักอาทิตย์หนึ่งนะครับ”
พร้อมย้ำกฎหมายประมงปี 2528 มีมาตรา 54 ห้ามไม่ให้ผู้ใดนำสัตว์น้ำมาในราชอาณาจักร ยกเว้นการลักลอบ ด้วยเหตุผลการแพร่ระบาดของโรค แต่กรมประมงก็ได้กำหนดเงื่อนไขโดยคณะกรรมการ IBC ว่าต้องเก็บตัวอย่างครีบดองในน้ำยา เพื่อส่งวิจัยชีวภาพสัตว์น้ำ สำนักวิจัยและพัฒนา กรณีไม่ทำตามจะไม่อนุญาต นี่เป็นหลักการของ IBC พอมาปี 2558 ก็ได้เห็นข้อบกพร่องของกฎหมาย จึงกำหนดไม่ให้ผู้ใดนำสัตว์น้ำที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ โดยให้รัฐมนตรีไปกำหนดในประกาศกระทรวง ในปี 2561 ปลาหมอคางดำก็อยู่ในนี้ด้วย ตนคิดว่าโทษยังไม่พอ จึงอยากขอให้ทุกคนสนับสนุนให้มีโทษทางอาญาด้วย
ส่วนเรื่องการวิจัยปลาตัวอย่างที่จะปล่อยไปผสมพันธุ์ เพื่อให้ออกลูกเป็นหมันนั้น ยังอยู่ระหว่างการทดลอง 3 ชุด เพื่อจะให้มีความเชื่อมั่นก่อน งบที่ว่า 150,000 บาท เป็นงบแค่น้ำยา เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์อื่นๆ เรามีอยู่แล้ว
ขณะที่เรื่องการส่งออกปลาไปที่ประเทศอื่น นักข่าวก็ถามตน ตนก็ตกใจ เพราะไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ จึงตั้งทีมค้นคว้าเรื่องนี้ พบว่ามีการส่งออกปลาเมื่อปี 2556-2559 ไป 17 ประเทศ โดยมีผู้ส่งออก 11 ราย มีปลาทั้งสิ้น 230,000 ตัว แต่ปี 2561 ตอนแก้กฎกระทรวงก็ไม่มีการส่งออก ย้ำว่าอะไรที่เราเจอเราก็นำเรียนให้ทราบ