นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการดำเนินนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล หลังจากนี้ว่า ยังเดินหน้าต่อ แต่เมื่อกลไกการเลือกนายกรัฐมนตรี การตั้งรัฐบาล และการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ ก็จะต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะต้องให้เกียรตินายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า สุดท้ายแล้ว จะร่างนโยบายอย่างไร แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่มี สส. 141 คน หากจะมีการจัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยร่วมด้วย ก็จะเสนอนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท เป็นหนึ่งในนโยบายที่ควรขับเคลื่อน ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจา และแต่ละฝ่าย จะมีความเห็นอย่างไร ในฐานะรัฐบาลรักษาการ และมติคณะรัฐมนตรีที่เคยให้เดินหน้าโครงการ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และดำเนินการตามกรอบที่กฎหมายให้สามารถทำได้ แต่ความชัดเจนทั้งหมด จะต้องรอหลังรัฐบาลชุดใหม่ และพรรคเพื่อไทย จะนำโครงการนี้ ไปหารือกับรัฐบาลชุดใหม่ด้วย
ส่วนกระแสในโลกออนไลน์ มีความกังวลโครงการจะถูกยกเลิก และต้องลบแอปพลิเคชันทิ้งไปนั้น นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า แอปพลิเคชันทางรัฐ เป็นแอปฯหลักสำหรับบริการประชาชน ไม่ใช่แอปฯเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต หรือแอปฯสำหรับการใช้จ่าย แต่แอปฯดังกล่าว มีการให้บริการทางรัฐหลากหลาย มีความปลอดภัยสูงสุดขอให้มั่นใจใน และข้อมูลก็เป็นข้อมูลที่มีอยู่แล้วไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แอปฯทางรัฐ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และไม่จำเป็นต้องลบแอปฯทิ้ง
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า จะต้องให้เกียรตินายกรัฐมนตรีคนใหม่ และรัฐบาลใหม่ ในการตัดสินใจดำเนินนโยบายว่า เรื่องใดสามารถเดินหน้าได้ ตนไม่สามารถให้คำตอบได้มากกว่านี้ เพราะจะต้องรอพูดคุยกัน แต่ในระหว่างนี้คณะอนุกรรมการ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง จะยังคงมีการประชุมเพื่อหารือเดินหน้าโครงการต่อไป รวมถึงการรอประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงบ่ายนี้ (15 ส.ค.) ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรักษาการ จะกำหนดให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ และกำหนดกรอบการทำงานเท่าที่สามารถทำได้ เพราะยังคงมีภาระหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชนอยู่ แต่น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์หน้า