ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงตรวจเยี่ยมสนามบินสุวรรณภูมิโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อดูระบบ ตม. หลังระบบล่มนานจนทำให้ ผู้โดยสารรอรับการตรวจ ตม.ขาเข้า และขาออก เกิดความล่าช้า สะสมหนาแน่น เมื่อช่วงปลาย ม.ค.ที่ผ่านมา นั้น
ทางด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. ได้มาประชุมติดตามความพร้อมการรองรับเทศกาลตรุษจีน ที่จะถึงนี้
โดย พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้ชี้แจงสรุปแผนตรุษจีน หรือ แผนน่านฟ้าเทศกาล67 ซึ่งมีการเตรียมการ ดังนี้
1. ด้านกำลังพล ให้งดขาดลา และ จัดกำลังพลเสริมหน้าที่เวรในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น ทั้งนี้ มีการแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ จากหน่วยนอกสังกัด มาดำรงตำแหน่งใน ตม.สนามบิน ราว 60 คน ซึ่งได้จัดให้ลงตรวจขาเข้า ขาออก ซึ่งเป็นจุดแตกหักสำคัญในการตรวจคัดกรองคนเข้าออกประเทศ
2. ด้านเทคโนโลยี ได้ให้ศูนย์เทคโนโลยี สตม.จัดเวร จนท.ผู้เชี่ยวชาญประกบกับ บริษัทที่ดูแลโครงการเพื่อร่วม monitorระบบ หากมีแนวโน้มขัดข้อง ต้องรีบแก้ไข และแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติดำเนินการตามแผนระบบขัดข้อง หรือ แผน comdown67 ทันที
3. บูรณาการบริหารจัดการ ทั้งการกระจายความหนาแน่นโซนตรวจ ตม.ไปทุกโซน ทั้งขาออก และขาเข้า รวมถึงการประสานสายการบินเปิด check in ขาออก ล่วงหน้า 3 ชม.
4. จัดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับ รอง ผบก.บัญชาการเหตุการณ์ประจำวัน เพื่อให้การแก้ปัญหา รวดเร็ว ทันเหตุการณ์
นอกจากนั้น พล.ต.ท.อิทธิพล ได้ติดตามความพร้อมผ่านระบบประชุมออนไลน์ ด่าน ตม.บ้านประกอบ จังหวัดสงขลา และ จังหวัดสตูล เนื่องจากจะมีปริมาณคนเดินทางเข้าออกจำนวนมาก ในช่วงตรุษจีน
ในการประชุมครั้งนี้ พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รรท.ผู้บังคับการศูนย์เทคโนฯ สตม. (ผบก.ศท.ตม.) ได้ชี้แจงความพร้อมด้านเทคโนโลยี และ ผู้บริหารบริษัท MSC สิทธิผล ซึ่งดูแลระบบ Biometric ยืนยันว่า จะไม่เกิดเหตุขัดข้อง หรือล่มอีก โดยได้เปลี่ยนเครื่องลูกข่ายกว่า 200 เครื่อง ให้เสร็จในวันที่ 9 ก.พ.2567 เพื่อให้ตรวจเร็วขึ้นและทันช่วงตรุษจีน
ขณะที่ พล.ต.ต.เชิงรณ ได้รายงานว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผู้โดยสารจีนเข้าประเทศประมาณ 30,000 คน ส่วนผู้โดยสารโดยภาพรวมเข้าออก ประมาณวันละ 130,000 คน ซึ่งทาง ตม.2 ได้ลดขั้นตอนการเก็บลายนิ้วมือคนไทย ต่างชาติ และเสนอให้มีการปรับแก้การ key เที่ยวบิน เป็นขึ้น show ในระบบแบบอัตโนมัติ
จากนั้น พล.ต.ท.อิทธิพล เข้าไปตรวจเยี่ยม จนท.ขาเข้า ขาออก เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริง โดยได้ให้กำลังใจแก่ จนท.ในการปฏิบัติงานด้วย และได้สั่งการให้ ศูนย์เทคโนฯ สตม. เร่งประชุมกับบริษัทผู้ดูแลระบบในการปรับปรุง server เพื่อรองรับการบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ในระยะยาว โดยเฉพาะการรองรับระบบ Auto channel ที่ทางการท่าอากาศยานไทย หรือ AOT จะจัดซื้อติดตั้งใน ก.ค.2567 นี้ ตามนโยบายรัฐบาล