“อนุทิน” สวนกลับปลัด มท. ผลสอบผู้ว่าฯเชียงรายฟังไม่ขึ้น

ja(1)-min

จากกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ถึงสาเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เชียงราย ในช่วงเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่นายภูมิธรรม เวชชัยรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 67

ล่าสุดมีการเผยแพร่เอกสารลับเกี่ยวกับผลสอบสวนดังกล่าว ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุว่า

ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลับ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการกรณีนายพุฒิพงศ์ ชี้แจงเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ให้ รมว.มหาดไทยทราบนั้น รมว.มหาดไทย พิจารณาจากรายงานผลการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทยและรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้วเห็นว่า

1.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในวันที่ 23 สิงหาคม อ้างว่ามีเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายออกจากกรุงเทพมหานครในเวลา 19.40 น. และเกรงว่าภารกิจจะยังไม่เสร็จสิ้น แต่ได้เดินทางกลับในวันที่ 24 สิงหาคม เที่ยวบินเวลา 11.20 น. และเดินทางถึงจังหวัดเชียงรายในเวลา 13.11 น.นั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากในข้อเท็จจริงยังมีเที่ยวบินที่ออกเดินทางไปจังหวัดเชียงรายในช่วงเวลาเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม อีกหลายเที่ยวบิน ได้แก่ สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.30 น. สายการบินไทยไลออนแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.50 น. สายการบินแอร์เอเชีย ออกเดินทางในเวลา 07.05 น. และสายการบินไทย ออกเดินทางในเวลา 08.20 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งนี้ จึงเห็นได้ว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมีความตั้งใจ อุตสาหะ เอาใจใส่ และอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการแล้วจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้น กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมา กล่าวอ้างได้

2. กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอ้างว่า ได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบในวันที่ 23 สิงหาคม ถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ โดยมีการมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และร่วมคณะตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยแทน โดยไม่มีหลักฐานใดๆ ประกอบนั้น เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถนำเรียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ ก็ย่อมที่จะรายงานโดยตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์แอปพลิเคชัน ดังที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เคยปฏิบัติในการติดต่อรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยตรงเป็นประจำมาโดยตลอด อีกทั้งยังสามารถขออนุญาตเดินทางร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้ การกล่าวอ้างนี้จึงเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้

3. กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม และปลัดกระทรวงมหาดไทยยังอนุมัติตามที่แจ้งด้วยวาจา ทั้งที่เหตุผลที่อ้างนั้นไม่สามารถรับฟังได้ปลัดกระทรวงมหาดไทยควรที่จะสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเร่งเดินทางและกำชับให้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้จงได้ อีกทั้งเมื่อได้ทราบการรายงานเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบ เพื่อให้พิจารณา หรือสั่งการแต่อย่างใด

4. กรณีนี้เป็นกรณีที่ รมว.มหาดไทยให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าฯเชียงราย ชี้แจงเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ให้ทราบภายใน 3 วัน มิได้เป็นการกล่าวหาว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกระทำผิดวินัยตามมาตรา 90 จึงไม่เป็นเหตุให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาสั่งยุติเรื่องโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 57 (2) ประกอบมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่อย่างใด อีกทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยยังได้เร่งสรุปความเห็นควรยุติเรื่องดังกล่าว โดยยังมิได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานอันจะเชื่อได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ด้วยความมุ่งมั่น อุตสาหะ เอาใจใส่ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามควรแก่กรณี

5. การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรายงานโดยใช้เหตุผลว่า การเดินทางกลับมายังพื้นที่ในช่วงเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม เป็นระยะเวลากระชั้นชิดไม่ทันในการต้อนรับนั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่จะต้องประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อบัญชาการเหตุการณ์และแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย มิใช่เป็นการต้อนรับในลักษณะการตรวจเยี่ยมราชการโดยทั่วไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทย ตามนัยมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำข้อสังเกตดังกล่าวไปแก้ไขและดำเนินการเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

จึงเรียนมาเพื่อทราบความเห็นและข้อสังเกตข้างต้น และให้ดำเนินการแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไป

 

 

ประเภท : การเมือง
แท็ก