นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (นักธุรกิจ) และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (ประชาชน) เดือน ส.ค.67 ว่า ความเชื่อมั่นหอการค้าอยู่ที่ระดับ 50.5 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ส่วนความเชื่อมั่น ผู้บริโภค ลดลงจากระดับ 57.7 เป็น 56.5 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน

ความเชื่อมั่นทั้ง 2 รายการตกลงต่อเนื่อง จากปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยที่เปราะบาง เพราะเป็นช่วงที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่ชัดเจน ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ภาคการผลิตยังไม่ฟื้นตัว และมีปัญหาน้ำท่วมด้วย ด้านผู้บริโภคเองก็มองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูงจึงยังไม่พร้อมใช้จ่ายเงิน
“คาดว่าเดือนหน้าดัชนีความเชื่อมั่นทั้ง 2 รายการจะปรับตัวดีขึ้น จากการอัดฉีดเม็ดเงินดิจิทัลวอลเล็ต ล็อตแรก 1.5 แสน ล้านบาท เข้าในระบบเศรษฐกิจในวันที่ 20 ก.ย. จะมีเงินจะสะพัดทันที 3-5 หมื่นล้านบาท ช่วยกระตุกเศรษฐกิจทำให้จีดีพีทั้งปีโตได้ 2.8% หรืออาจลุ้นให้ถึง 3% ได้แต่ก็ไม่ง่ายต้องจับตาการเบิกจ่ายงบ การท่องเที่ยว การส่งออกว่าจะโตต่อเนื่องหรือไม่

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมว่า จะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจราว 1 หมื่นล้านบาท ยังไม่กระทบต่อจีดีพีมากนัก เนื่องจากพืชผลเกษตรและภาคการท่องเที่ยวเสียหายในวงจำกัด รวมทั้งในเดือนก.ย. จะมีเม็ดเงินจากดิจิทัลวอลเล็ตเข้าไปช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยเม็ดเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะไม่ส่งผล กระทบต่อเงินเฟ้อเพราะไทยมีเงินเฟ้อเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ขยายตัวไม่ถึง 1%