นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงมาตรการฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลด โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ นายธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มาเป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14-15 กันยายนที่ผ่านมา ตนและ สส.พรรคประชาชนได้ลงพื้นที่ไปยังอำเภอเมืองและอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประเด็นหลักที่พบคือ น้ำท่วมคือภัยที่ส่งผลกระทบทั้งต่อชีวิตและการเงิน การค้าขายและธุรกิจก็พังเสียหายยับเยินไปด้วย
ทั้งนี้การรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมประกอบไปด้วย 2 ช่วง โดยช่วงแรก “ก่อนภัยมา” สิ่งที่ต้องทำคือการลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ป้องกันความสูญเสียให้มากที่สุด ส่วนช่วงที่สอง “หลังภัยมา” สิ่งที่ต้องทำคือการช่วยเหลือ-เยียวยาให้เร็วและทั่วถึงที่สุด รวมถึงการซ่อมแซม-ฟื้นฟูให้วิถีชีวิตกลับมาเป็นปกติสุขโดยเร็วที่สุด
โจทย์ข้างต้นสามารถแปลงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการได้ 3 ข้อคือ 1. “ลดความเสี่ยง” ด้วยการบริหารจัดการน้ำฝน น้ำท่า และน้ำที่ข้ามพรมแดนมาจากต่างประเทศ 2. “ลดความสูญเสีย” ด้วยระบบการแจ้งเตือนภัย ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมทั้งด้านการบูรณาการข้อมูลและวางระบบเทคโนโลยีการแจ้งเตือนภัย 3. “ช่วยเหลือ เยียวยา ซ่อมแซม ฟื้นฟู” ด้วยการบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติและการออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากรัฐ
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์เฉพาะหน้าหลังน้ำลด สิ่งที่ประชาชนผู้ประสบภัยต้องการให้รัฐบาลจัดการมากที่สุดในขณะนี้ คือการช่วยเหลือเยียวยาและซ่อมแซมฟื้นฟู โดยมี 10 มาตรการที่รัฐบาลควรทำเร่งด่วน ซึ่งบางมาตรการรัฐบาลได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ยังมีปัญหาอยู่หลายจุดที่ตนขอให้ข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. การจัดตั้งศูนย์กลางประสานความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธาน
2. การยกเว้นค่าน้ำ-ค่าไฟในเดือนกันยายน และลดราคา 30% ในเดือนตุลาคม ซึ่งต้องตั้งคำถามว่าเพียงพอหรือไม่ น้อยไปหรือไม่ รวมถึงระบบน้ำประปาที่บริหารโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รัฐบาลจะตั้งงบประมาณชดเชยค่าน้ำประปาให้กับ อปท. ด้วยหรือไม่
3. เงินเยียวยาน้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันมีขั้นตอนที่ยุ่งยากเกินไป เพราะกำหนดเงื่อนไขว่าต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องผ่านประชาคมหมู่บ้าน และต้องผ่านคณะกรรมการภัยพิบัติระดับอำเภอและจังหวัด อีกทั้งระยะเวลาดำเนินการยังกำหนดไว้ยาวนานถึง 90 วัน ตนขอเสนอว่า รัฐบาลสามารถใช้ภาพถ่ายดาวเทียมจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) มาซ้อนทับกับข้อมูลพิกัดที่อยู่บนแผนที่โลก (Geocoding) เพื่อให้เงินชดเชยผู้ประสบภัยโดยอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐได้เลยทันที
4. เงินซ่อมแซมบ้าน ซึ่งรัฐบาลจะจ่ายให้หลังละ 2.3 แสนบาทหากมีความเสียหายเกิน 70% ซึ่งก็เกิดคำถามว่า 70% นั้นวัดจากอะไร มีรายละเอียดอะไรบ้างก็ไม่ชัดเจน ตนขอเสนอว่า รัฐบาลควรให้เงินซ่อมแซม 10,000 บาททันทีสำหรับบ้านทุกหลังที่ประสบภัย จากนั้นเมื่อสำรวจและประเมินความเสียหายเสร็จสิ้นก็ค่อยจ่ายส่วนต่างที่เหลือตามมา
5. การพักชำระหนี้ ซึ่งปัจจุบันธนาคารรัฐจะพักชำระหนี้ให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ส่วนธนาคารเอกชนพักชำระหนี้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น ตนขอเสนอว่า รัฐบาลควรเจรจาให้ธนาคารเอกชนพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเช่นเดียวกับธนาคารรัฐ
6. เงินเยียวยาพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะข้าวที่ปัจจุบันรัฐบาลชดเชยไร่ละ 1,340 บาท ซึ่งเกษตรกรสะท้อนว่าไม่เพียงพอ เพราะต้นทุนที่เสียหายจริงสูงกว่าที่รัฐบาลประเมินถึง 4 เท่า ตนขอเสนอว่า รัฐบาลควรเพิ่มอัตราเยียวยาพื้นที่เกษตรกรรมตามต้นทุนการผลิตจริง
7. งบประมาณซ่อมแซมถนนและทรัพย์สินราชการ รัฐบาลอนุมัติงบกลาง 5.3 พันล้านบาทให้เฉพาะกรมชลประทาน กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทเท่านั้น ตนขอเสนอว่า รัฐบาลควรอนุมัติงบประมาณให้ อปท. เพิ่มเติมด้วย เพื่อซ่อมแซมถนน ไฟส่องสว่าง โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และอื่นๆ
8. การอุดหนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการ ตนขอเสนอให้รัฐบาลอุดหนุนงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อให้ อปท. มีกำลังในการออกนโยบายฟื้นฟูเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่มากขึ้น
9. การกระตุ้นการท่องเที่ยว ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการ โดยเดิมรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท ตนขอเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เมืองน้ำลด” ลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติมอีก 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท
10. การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) แก่ผู้ประกอบการ ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการ ตนขอเสนอว่ารัฐบาลควรให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% เพื่อให้ประชาชนนำมาเร่งฟื้นฟูกิจการธุรกิจร้านค้าโดยเร็ว