สำนักข่าวซินหัว รายงาน เมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) ที่ผ่านมา คณะนักวิทยาศาสตร์ของจีนใช้แม่เหล็กตัวต้านทาน (resistive magnet) ที่พัฒนาขึ้นเองมาผลิตสนามแม่เหล็กคงตัว ขนาด 42.02 เทสลา ซึ่งใหญ่กว่าสนามแม่เหล็กของโลก 8 แสนเท่า และทำลายสถิติโลกที่สหรัฐฯ เคยทำไว้ในปี 2017

รายงานระบุว่าความสำเร็จครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นที่ห้องปฏิบัติการสนามแม่เหล็กระดับสูง สถาบันวิทยาศาสตร์กายภาพเหอเฝย สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน และจะส่งเสริมการค้นพบและการประยุกต์ใช้ทางวิทยาศาสตร์ในภาคเทคโนโลยีต่างๆ เป็นวงกว้าง

คณะผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าสนามแม่เหล็กคงตัวระดับสูงเป็นสภาวะการทดลองสุดขั้ว ถือเป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยนักวิทยาศาสตร์สามารถยักย้ายคุณสมบัติของสสารในสภาพแวดล้อมการทดลองของสนามแม่เหล็กระดับสูง ซึ่งเกื้อหนุนการค้นพบปรากฏการณ์ใหม่และสำรวจกฎใหม่ของสสาร

นอกจากนั้นสนามแม่เหล็กระดับสูงสามารถส่งเสริมการประยุกต์ใช้งาน เช่น โลหะวิทยาแม่เหล็กไฟฟ้าและปฏิกิริยาการสังเคราะห์ทางเคมี โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสังเคราะห์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านิวเคลียร์ (NMR) ที่แพร่หลายในวิทยาศาสตร์การแพทย์

ทั้งนี้ สนามแม่เหล็กคงตัวระดับสูงถูกขนานนามเป็น “แหล่งกำเนิด” รางวัลโนเบล เนื่องจากมีคุณค่าอันมีนัยสำคัญในหลายด้าน เช่น ฟิสิกส์ เคมี วัสดุศาสตร์ และวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต

ควงกวงลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการประจำห้องปฏิบัติการสนามแม่เหล็กระดับสูงฯ กล่าวว่าความสำเร็จใหม่เป็นผลลัพธ์จากความพยายามของทีมวิจัยที่ใช้เวลานานเกือบ 4 ปี ในการสร้างสรรค์โครงสร้างแม่เหล็กใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต

ความก้าวหน้านี้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการสนามแม่เหล็กระดับสูงที่ว่องไว ควบคุมได้ และคงตัว ซึ่งช่วยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์มีสภาวะการทดลองอันทรงพลัง และวางรากฐานทางเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างแม่เหล็กคงตัวระดับสูงยิ่งขึ้นของจีน