สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงาน สมาคมเพื่อการพัฒนาระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าเพื่ออุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าปริมาณคำสั่งซื้อหุ่นยนต์โรงงานของทวีปอเมริกาเหนือในปี 2023 ลดลงเกือบหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับปี 2022 และปริมาณคำสั่งซื้อดังกล่าวยังลดลงอีกในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
เมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.)ที่ผ่านมา เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่ามีหุ่นยนต์ทำงานในโรงงานของสหรัฐฯ น้อยลง และบรรดาผู้ผลิตลดการสั่งซื้ออุปกรณ์อัตโนมัติ เนื่องจากธุรกิจสายการผลิตและพื้นที่การผลิตชะลอตัวลง ทำให้มีแรงงานมนุษย์กลับมาทำงานมากขึ้นอีกครั้ง
อุปกรณ์อัตโนมัติที่ดึงดูดการลงทุนจำนวนมากหลังจากเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำให้ตำแหน่งงานในโรงงานจำนวนมากไม่มีแรงงานและยากจะจ้างงาน รวมถึงค้างเติ่งอยู่ระหว่างการขาดงานจำนวนมากกับแรงงานที่ต้องการค่าจ้างสูงขึ้นหรือตำแหน่งงานที่มีความต้องการทางกายภาพน้อยลง ขณะปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานส่งผลให้อุปสงค์เพิ่มขึ้น หลายบริษัทมองหาวิธีเร่งการผลิตเมื่อมีชิ้นส่วนและวัสดุพร้อม
อย่างไรก็ดี บางบริษัทที่ซื้อหุ่นยนต์ในช่วงขาดแคลนแรงงานอันเกิดจากโรคระบาดใหญ่ได้ประเมินการซ่อมบำรุงและทักษะการเขียนโปรแกรมอันจำเป็นต่อการใช้หุ่นยนต์ทำงานซับซ้อนยิ่งขึ้นต่ำเกินไป
กลุ่มผู้ผลิตหุ่นยนต์เผยว่าลูกค้าช่างเลือกมากขึ้นเมื่อต้องลงทุน ขณะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและปริมาณการผลิตที่ต่ำลงหมายความว่าบริษัทต่างๆ ต้องใช้เวลานานขึ้นในการคืนทุนที่ใช้ไปกับหุ่นยนต์
สมาคมฯ เสริมว่าภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นผู้ใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ แต่ปริมาณการสั่งซื้อหุ่นยนต์ของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในไตรมาสสอง (เมษายน-มิถุนายน) ของปี 2024 ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 โดยหุ่นยนต์สำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็นร้อยละ 46 ของคำสั่งซื้อหุ่นยนต์ทั้งหมดในไตรมาสดังกล่าว ลดลงจากเกือบร้อยละ 60 ของคำสั่งซื้อในช่วงเดียวกันของปี 2022