ไฮซีซั่นมาแล้ว นายกฯ ปลื้มพบ นทท. เข้าไทยเพิ่มกว่า 120 ล้านคน มอบส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอำนวยความสะดวกให้เต็มที่เพื่อกระตุ้นศก.ของประเทศ ด้าน ทอท. เปิดเช็กอิน Biometric ลดเวลารอบินประเดิมโดเมสติกพรุ่งนี้วันแรก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ ที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นในทุกมิติ หลังพบว่าในช่วงเดือนพฤศจิกา-ธันวาคม-มกราคม-กุมภาพันธ์ จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกที่มีอากาศหนาวจัดเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้รายงานว่าในวันนี้มียอดผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี ที่แล้วมาถึงเดือนตุลาคมปีนี้ มีมากถึงกว่า 120ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% โดยเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01%
ขณะที่ นาย กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ทอท. ได้รายงานว่า ตารางบินฤดูหนาวปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมาถึง 22.1% และมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 23% โดยเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ และฮ่องกง
โดย ทอท. ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เปิดระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ระบุตัวตนของผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวก สบาย รวดเร็ว และลดระยะเวลาในการรอคิว นำร่องให้ผู้โดยสารภายในประเทศได้ใช้ก่อนในวันวันพรุ่งนี้ 1 พฤศจิกายน 2567 และจะเปิดใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศวันที่ 1 ธันวาคม 2567
นาย จิรายุกล่าวต่อไปว่านายกรัฐมนตรีให้นโยบายไว้ว่า รัฐบาลได้มุ่งมั่นพัฒนาประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายในทุกมิติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกรูปแบบซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการยกระดับการให้บริการในท่าอากาศยานไทยให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และมีความพร้อมทั้งในด้านระบบ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เน้นความสะดวก สบาย รวดเร็ว และลดระยะเวลาให้กับผู้ใช้บริการ โดยเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยกระดับศักยภาพเป็นท่าอากาศยานที่ดีในระดับโลก นำมาซึ่งนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติของประเทศไทยได้ นายจิรายุ กล่าว