นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ว่าขณะนี้มีการยื่นคำร้องรวมทั้งสิ้น 4 คำร้อง เมื่อเป็นแนวทางเดียวกันจึงรวมสำนวน หลังจากนี้เมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าเป็นคำร้องที่สามารถรับไว้พิจารณาได้ เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียน กกต. ได้รับเรื่องไว้ และได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริง รวมถึงพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินตามกระบวนการ ซึ่งกรอบเวลาการทำงานของคณะกรรมการที่รวบรวมข้อเท็จจริงจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน แต่หากมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานเอกสารเพิ่มเติมก็อาจขยายระยะเวลาได้อีก 30 วัน หลังจากนั้นจะรวบรวมความเห็นทั้งหมดเสนอถึงเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียน ซึ่งในชั้นนี้จะมีการพิจารณาตามขั้นตอน ถ้าเห็นว่า มีการกระทำที่อาจฝ่าฝืนกฎหมาย อันนำไปสู่การยุบพรรค เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนก็จะเสนอเรื่องนี้ให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา เมื่อที่ประชุม กกต.พิจารณาแล้วเห็นควรอย่างไร ขึ้นอยู่กับสำนวน รายงานพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงทั้งหมดที่สรุปขึ้นมาจากนายทะเบียนพรรค
นายอิทธิพร กล่าวว่า เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว ทราบว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีผู้ร้องเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการว่า ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องจะเข้ามาชี้แจง แต่ระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ตามข้อ 7 วรรค 2 ให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมารับทราบข้อเท็จจริงและมีโอกาสแสดงความคิดเห็น พร้อมเสนอเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาด้วย ดังนั้นทุกอย่างจึงมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่ อาจต้องใช้เวลาบ้าง หลังจากนั้นจะรวบรวมและเสนอต่อเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรค
นอกจากนี้ นายอิทธิพร กล่าวถึงการพิจารณาคุณสมบัติของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา ในวันนี้จะมีการประชุม กกต. ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา หลังจากที่สำนวนในชั้นผู้เกี่ยวข้องพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ในวันนี้จึงจะมีการพิจารณา โดย กกต.จะมาดูสำนวน การสอบสวนทั้งหมด และอาจมีการลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรืออาจมีมติไต่สวน สอบสวนเพิ่มเติม ก็จะมีการพิจารณากันในวันนี้ ซึ่งต้องรอฟังที่ประชุมของคณะกรรมการทั้ง 7 คน ทั้งนี้ หากมีมติตามขั้นตอนก็จะทำคำวินิจฉัยและส่งสำนวนไปยังศาล หากพบว่ากระทำผิดจริง ซึ่งการพิจารณาก็อาจไม่ใช้เวลามาก ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการไต่สวนหาพยานเพิ่มเติมหรือไม่ แต่หากพยานหลักฐานเพียงพอ สามารถชี้ได้ ก็อาจมีการลงมติ
ส่วนความคืบหน้ากรณี พลเอก พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อมีการลาออกแล้ว ก็ได้มีการเลื่อนลำดับ สส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาทดแทนและได้ประกาศเรียบร้อยแล้ว