นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี “เกาะกูด-MOU 44” ว่า
MOU 44 ควรเดินหน้าต่อหรือไม่
ทำบันทึกกันมาตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน 2567 ก็ยังไม่สามารถเจรจาในส่วนแบ่งปันผลประโยชน์ได้ เพราะ
1. รัฐบาลไทยที่ผ่านมา ฉลาดพอที่จะยึดหลักต้องตกลงเรื่องเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิให้รู้เรื่องก่อน เพราะเขารู้ดีว่า หากไปยอมเส้นที่กัมพูชาลากมั่ว ๆ ผ่าเกาะกูด พื้นที่ทับซ้อนจะเพิ่มจากไม่ถึง 10,000 ตาราง กม. กลายเป็น 26,000 ตาราง กม.
2. การเจรจาของฝ่ายไทยจึงเริ่มต้นด้วย คุณต้องลากเส้นใหม่ ที่ไม่ผ่านเกาะกูด มิเช่นนั้นจะไม่เจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ส่วนกัมพูชาเขา เห็นว่าขีดเส้นแบบนี้เขาได้ประโยชน์เกินเต็ม เขาก็ขอคุยเรื่องการแบ่งประโยชน์เลย 23 ปีที่ผ่านจึงไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
3. เพิ่งจะมีรัฐบาลชุดนี้แหละ ที่มีพอคุณทักษิณเพื่อนสนิทฮุนเซ็น โชว์วิสัยทัศน์ว่า เส้นเขตแดนนั้นคุยอย่างไรก็ไม่จบ ดังนั้น ควรเดินหน้าเจรจาเรื่องแบ่งสมบัติใต้ทะเลเลย เดี๋ยวขุดช้าของมันจะหมดราคา หลังจากนั้น ก็เลยกลายเป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นความคิดที่ดี
4. ดังนั้น หากรัฐบาลจะเดินหน้าเจรจาเรื่องแบ่งประโยชน์โดยไม่สนใจเส้นอ้างสิทธิที่ถูกต้อง จะเป็นการประเคนผลประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลที่กัมพูชาไม่ควรจะได้ให้กับเขา
5. เกาะกูดนั้น วันนี้เขาไม่เอาหรอกครับ แต่เขาอยากได้ส่วนแบ่ง 5 ล้านล้านบาทที่อยู่ใต้ทะเลมากกว่า แต่พอสูบใช้หมดแล้ว อีก 30 ปี 50 ปีข้างหน้า รอพวกที่พูดว่านี้ว่าไม่ยอมเสียพื้นที่แม้แต่ตารางนิ้วตายหมดแล้ว ใครจะไปรู้ว่ากัมพูชาอาจค่อยมาอ้างอีกรอบเพื่อเอาดินแดน โดยบอกว่าตอนขีดเส้นไทยไม่ทักท้วงแบบเขาพระวิหารอีกรอบ คนที่พูดไม่เสียดินแดนวันนั้นตายไปแล้ว รับผิดชอบอะไรไหม