“เทพไท” จี้ รัฐบาลแก้ปัญหา หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่ม ศปปส.กับกลุ่มทะลุวัง หวั่นนำสู่ความรุนแรงซ้ำรอย 6 ตุลาคม 2519 มาแล้ว
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า หยุดปลุกระดม ให้เกลียดชังกัน หลังจากเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่ม ศปปส.กับกลุ่มทะลุวัง ทำให้สถานการณ์ทำท่าจะบานปลายออกไปเรื่อยๆ มีการปลุกระดมผ่านโลกโซเชียลในหลายรูปแบบ ทั้งข่มขู่ และคุกคาม หมายเอาชีวิตซึ่งกันและกัน เรื่องแบบนี้ถ้ารัฐบาลไม่ตัดไฟแต่ต้นลม จะเกิดเป็นกระแสขยายวงกว้างขึ้น จนทำให้ประชาชนแบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย และมีความเคียดแค้นกัน จะนำไปสู่ความแตกแยกและประหัตประหารกันในอนาคตก็เป็นได้ ยิ่งในยุคสมัยนี้ กระแสของโลกโซเชียลมีอิทธิพลต่อความคิด และความเชื่อของผู้คนเป็นอย่างมากถ้ามีการปลุกกระแส โหนกระแส แชร์ข่าวเถื่อน ปลุกระดมกันมากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลไม่มีมาตรการใดออกมาป้องปราม ก็จะเป็นความน่ากลัวมาก จนถึงบัดนี้ยังไม่เห็นท่าทีใดๆ จากรัฐบาลเลย มีแต่คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความเป็นห่วงความขัดแย้ง ซึ่งคงไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองเผชิญหน้าจนเกิดการปะทะกันอีก
เรื่องแบบนี้รัฐบาลไม่ต้องเต้นตามกระแสกดดันของแต่ละฝ่าย ให้ยึดเอากฎหมายเป็นหลัก ไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ถ้าหากมีการล้ำเส้น ทำผิดกฎหมาย ก็สามารถใช้กับกฎหมายดำเนินการได้ทันที และเชื่อว่ากฎหมายที่มีอยู่ เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นในสังคมได้แล้ว อยากให้รัฐบาลนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม ดีกว่าปล่อยให้ความขัดแย้งอยู่บนท้องถนน ต้องทำเรื่องความขัดแย้งในตอนนี้ให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะไปทำกฎหมายนิรโทษกรรม แม้ว่าจะนิรโทษกรรมให้เฉพาะคนบางกลุ่มบางความผิดแล้ว ก็ไม่สามารถสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชาติได้ ตราบใดที่คนในชาติยังขัดแย้งกันอยู่
ขอให้รัฐบาลและสังคมตั้งสติให้ดี และรีบแก้ปัญหาโดยเร็ว เพราะเรื่องความขัดแย้งที่เกี่ยวกับสถาบันฯ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นเข่นฆ่ากันกลางเมือง ซึ่งสังคมไทยเคยได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มาแล้ว