นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ธนา อดีตนักร้องดัง และนางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วานนี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิดฉ้อโกง กรณีถูกบริษัทอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งเอาผิดฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้า 79 ล้านบาท และนัดหมายอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ย.67
นายเชนเผยว่าเข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 กรณีที่บริษัทอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีตนและภรรยาในเรื่องการฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้า 79 ล้านบาท เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากสินค้าทั้งหมดยังอยู่ และไม่ได้นำไปขาย เดิมทีคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมองว่าเป็นคดีแพ่ง ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 65 เรื่องที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องทางธุรกิจ หากศาลแพ่งมองว่าตนเองเป็นหนี้ ก็ยินดีที่จะจ่าย ต่อมาทางอัยการกลับมีความเห็นสั่งให้ฟ้องในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งเป็นคดีอาญา พนักงานสอบสวนจึงเรียกให้มาเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และยอมรับว่าตกใจที่กลายเป็นคดีอาญา โดยหลังจากนี้จะทำตาม ขั้นตอน พร้อมจะนำพยานมาให้การยืนยันสนับสนุนว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะฉ้อโกง
สำหรับจุดเริ่มต้นเรื่องนี้ คือสั่งสินค้าจากบริษัท 2 ล็อต ล็อตแรกขายดีเพียง 7 วันแรก หลังจากนั้นได้รับแจ้งจากทาง อย. ว่ามีปัญหาในเรื่องการขออนุญาตโฆษณา กล่องผลิตภัณฑ์ไม่สามารถนำไปโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ที่ซื้อไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์หรือ Billboard ทำให้ต้องเรียกกล่องสินค้าคืนทั้งประเทศ นอกจากนี้สินค้าไม่ได้ตามที่ตกลง ผลิตภัณฑ์ที่สั่งไปเนื้อเป็นตัวสีเหลือง แต่ของที่ได้รับกลับเป็นสีส้ม ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน สินค้าทั้งหมดจึงไม่ได้ถูกนำไปขายและไม่ได้นำเงินมาหมุนแต่อย่างใด ทุกชิ้นยังคงอยู่ที่โกดังสำนักงาน มูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายเชน กล่าวทั้งน้ำตาว่าส่วนหนึ่งที่การขออนุญาตโฆษณามีปัญหา เพราะมีบุคคลหนึ่งได้แนะนำกับตนว่าให้โฆษณาเกินจริงไปเลย แล้วเดี๋ยวจะจ่ายค่าปรับให้ แต่มันทำไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ อย.ได้ตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ตนได้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเป็นหนี้มาตั้งแต่ปี 64 ก็ทำงานหาเงินใช้หนี้มาโดยตลอด ซึ่งบริษัทอมาโด้ ตนเองเอาทั้งชีวิตใส่ไปแล้ว หากอมาโด้ตาย ตนก็ตายไปด้วย และจะไม่อนุญาตให้ตนเองมีความสุข ถ้ายังใช้หนี้ไม่หมด ยอมรับว่าเครียด และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธุรกิจ เป็นคดีแพ่ง ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมากดดันกัน และตนเองเป็นลูกหนี้ที่ดี ก็ควรได้รับความยุติธรรม