“ชูศักดิ์” เผยมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา เน้นย้ำทำงานเชิงรุกและรายงานผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประเด็นนโยบายการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่า สถานการณ์ปัจจุบันพบว่ามีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาในหลากหลายรูปแบบทั้งที่เกิดจากคณะสงฆ์เอง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์และวัด รวมถึงบุคคลภายนอกที่ใช้พระพุทธศาสนา คณะสงฆ์และวัดเป็นแหล่งในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยมิชอบ ส่งผลให้เกิดความเสื่อมศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสอดคล้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตามกฎกระทรวงการแบ่งส่วนราชการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พ.ศ. 2557 จึงมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กำหนดมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา ดังนี้
1. กำหนดแนวทางและมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย อาทิ การเสพยาเสพติด การเล่นการพนัน ภายในบริเวณวัดโดยเด็ดขาด
2. กำหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันมิให้พระสงฆ์ประพฤติผิดพระธรรมวินัย เช่นการเสพยาเสพติด การเล่นการพนัน การดื่มสุรา การเสพเมถุน การใช้สื่อออนไลน์เพื่อเล่นการพนันหรือเพื่อการลามกอนาจาร
3. สอดส่อง ติดตาม มิให้มีการนำคำสอนของพระพุทธศาสนาไปบิดเบือนเพื่อทำให้พุทธศาสนิกชนหลงผิดในหลักธรรมของศาสนา หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ของคณะสงฆ์และบุคคลทั่วไปโดยมิชอบ
4. สอดส่อง ติดตาม และดำเนินการอย่างเด็ดขาดในกรณีที่มีการแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์
5. มีมาตรการคุ้มครองดูแลพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี มิให้ถูกกลั่นแกล้งหรือทำให้เสื่อมเสียด้วยวิธีการใด ๆ
6. กำหนดมาตรการร่วมกับผู้ปกครองคณะสงฆ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคัดกรองบุคคลที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องคดี ผู้ติดยาเสพติด หรือผู้มีพฤติกรรมเสื่อมเสียทางด้านศีลธรรมได้อาศัยวัดเพื่อเป็นสถานที่กระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
7. ให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนหรือปรับปรุงศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่มีอยู่ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรณีพบการกระทำของพระสงฆ์หรือบุคคลใดอันไม่เหมาะสมที่เป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที
8. กำหนดแนวทางให้พุทธศาสนิกชนได้มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และร่วมกันสอดส่องแจ้งเหตุในกรณีที่พบการกระทำใดของบุคคลอันจะนำไปสู่การบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัดจะเป็นกลไกในการสอดส่องดูแล ที่ผ่านมาจะมีการทำงานเชิงรับแต่หลังจากนี้จะต้องทำงานเชิงรุก พร้อมกับให้ พศ. ดำเนินการตามแนวนโยบายข้างต้นโดยเคร่งครัดและต่อเนื่อง และให้รายงานผลการดำเนินการมาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้มีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขให้การปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป นอกจากนี้ จะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้ที่ดินของวัดและสำนักสงฆ์ที่เกิดปัญหาในขณะนี้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแต่งตั้งคณะกรรมการ