สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงาน ทีมวิศวกรของนาซา (NASA) ดำเนินการตรวจสอบเฮลิคอปเตอร์สำรวจดาวอังคารอินเจนูอิตี (Ingenuity) เสร็จสิ้นแล้ว โดยเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ประจำการถาวรอยู่บนดาวอังคารนับตั้งแต่ขึ้นบินเที่ยวบินสุดท้ายเมื่อเดือนมกราคม 2024
อนึ่ง เฮลิคอปเตอร์อินเจนูอิตี ถือเป็นการสาธิตเทคโนโลยีเพื่อทดสอบการบินด้วยพลังงานบนดาวเคราะห์ดวงอื่นครั้งแรก โดยสามารถทดสอบเที่ยวบินสูงสุด 5 เที่ยวในระยะเวลา 30 วัน
เมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.) นาซาเผยว่าเฮลิคอปเตอร์สำรวจดาวอังคารลำนี้ดำเนินการมาเกือบ 3 ปีแล้ว ขึ้นบิน 72 เที่ยว และบินไกลกว่าที่วางแผนไว้มากกว่า 30 เท่า พร้อมสะสมเวลาบินมากกว่า 2 ชั่วโมง
ในระหว่างการบินเที่ยวสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2024 อินเจนูอิตีได้บินขึ้นสูงถึง 12 เมตรและบันทึกภาพ ก่อนลอยกลับลงมาบนพื้นผิวดาวอังคารและระงับการสื่อสาร ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ภารกิจดังกล่าวได้เริ่มทำการสื่อสารอีกครั้ง ซึ่งภาพถ่ายที่ส่งกลับมา 6 วันหลังจากการบินเผยให้เห็นว่าใบพัดโรเตอร์ของอินเจนูอิตีได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
ผลการสำรวจข้างต้นสรุปได้ว่าระบบนำทางของอินเจนูอิตีที่เกิดปัญหาขัดข้องในการให้ข้อมูลที่แม่นยำระหว่างการบิน อาจทำให้เกิดหลายเหตุการณ์จนส่งผลให้ต้องยุติภารกิจลง
เฮลิคอปเตอร์อินเจนูอิตีลงสู่พื้นหลุมอุกกาบาตเจซีโร (Jezero Crater) ของดาวอังคาร เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2021 โดยติดอยู่กับส่วนท้องของยานสำรวจเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ของนาซา
แม้เที่ยวบินที่ 72 จะส่งผลให้อินเจนูอิตีต้องหยุดบินเป็นการถาวร แต่เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ยังคงส่งข้อมูลการทดสอบสภาพอากาศและระบบอากาศยานไปยังยานสำรวจเพเซเวียแรนซ์ราวสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งข้อมูลสภาพอากาศนี้อาจมีประโยชน์ต่อการสำรวจดาวอังคารในอนาคต
นาซาคาดว่าการค้นพบนี้จะเอื้อประโยชน์ต่อเฮลิคอปเตอร์สำรวจดาวอังคาร รวมถึงอากาศยานลำอื่นๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อปฏิบัติงานบนดาวเคราะห์ดวงอื่น