เพจ “หมอแล็บแพนด้า” ได้โพสต์อธิบาย “โรคโนโรไวรัส” ที่กำลังแพร่ระบาดในจีนขณะนี้ โดยระบุว่า บางคนยังไม่ค่อยคุ้นชื่อมันซักเท่าไหร่ ก็เลยนึกว่าเป็นเชื้อตัวใหม่ แต่โนโรไวรัสมันมีมานานแล้วครับ ระบาดเป็นประจำช่วงฤดูนี้แหละ บางคนเข้าใจผิดว่าอาหารเป็นพิษเป็นหมู่คณะ แต่ไม่ใช่! มันเกิดจากเชื้อนี้นี่เอง ปีที่แล้วยังระบาดที่ภูเก็ตจน รพ.เตียงเต็มเลย
สำหรับเจ้าโนโรไวรัส (Norovirus) มันเป็นไวรัสทำให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร มันอยู่ในอุจจาระของผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 2 สัปดาห์ แพร่ระบาดได้ง่ายในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว เชื้อนี้ติดต่อจากการกินอาหาร น้ำดื่ม หรือน้ำแข็งที่มีการปนเปื้อนเชื้อ นอกจากนี้ยังติดต่อจากการหายใจเอาละอองฝอยของเชื้อเข้าไป หรือเอามือไปสัมผัสเชื้อตามพื้นผิวต่างๆ แล้วหยิบอาหารเข้าปาก ติดต่อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุและเด็กเล็กอาจจะมีอาการรุนแรงได้นะครับ
พอเรารับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ประมาณ 12 – 48 ชั่วโมง เราจะเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ ปวดท้อง และอาจมีไข้ ปวดหัว เพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 1 – 3 วัน ซึ่งยังไม่มีวัคซีนสำหรับเชื้อนี้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมป้องกันด้วยการยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ถ้าเก็บไว้นานเกินกว่า 2 ชั่วโมง เอานำมาอุ่นร้อนก่อนกินนะครับ และอย่าลืมล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ
ทำความสะอาดพื้นผิวและของเล่นต่างๆ เพราะมันอาจปนเปื้อนสารคัดหลั่ง ละอองจากการอาเจียน หรืออุจจาระ เนื่องจากไม่มียาก็รักษาตามอาการเอา ถ้าอาการท้องเสียไม่หนักมาก ให้จิบน้ำผสมเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ ถ้าแต่อาการไม่ดีขึ้น อาเจียนมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะครับ