จับพิรุธรวบ “ผีน้อยจีน” ห้วยขวาง หวั่นกระทบธุรกิจไทย

S__22675461-min

จากกรณีตำรวจห้วยขวางจับชาวจีน 5 ราย อายุระหว่าง 34-61 ปี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.67 ลักลอบเข้ามาทำงานเป็นแรงงานรับเหมาก่อสร้างทุบตึก ผิดกฎหมายในย่านห้วยขวาง

นายธนิต โสรัตน์ ประธานสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ เผยในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 โดยตั้งข้อสังเกตถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า ได้มีการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงจากหลายหน่วยงาน และมีข่าวที่คล้ายกันในทุกช่องทาง สัญญาณที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อสังเกต และคำถามเกี่ยวกับลักษณะการจับกุมและเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะเรื่องของอายุและความสามารถของผู้ถูกจับกุม ซึ่งบ่งบอกถึงการเป็นแรงงานที่มีทักษะหรือฝีมือ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ต้องการแรงงาน มีทักษะเฉพาะทาง การจับกลุ่มเหล่านี้ จึงเป็นการจับกุมกลุ่มแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่ากลุ่มแรงงานไร้ทักษะ

ในด้านของแรงงานจีนในไทย ปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 28,000 คน ที่ทำงานถูกกฎหมายในไทย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากช่วงก่อนโควิดที่มีประมาณ 32,000 คน แม้ว่าจะมีการจ้างแรงงานต่างชาติในหลากหลายอุตสาหกรรม แต่การทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างหรือการปรับปรุงอาคารเก่า มักจะมีการใช้แรงงานที่มีทักษะจากประเทศต่างๆ เช่น จีน ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งหากเป็นการทำงานตามกฎหมาย จะต้องมีการตรวจสอบ และอนุมัติตามข้อกำหนดที่ถูกต้อง พบว่าโทษที่มีอยู่ในกฎหมายเกี่ยวกับการจ้างแรงงานต่างชาติถือว่าชัดเจน แต่การบังคับใช้ไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้การหลีกเลี่ยงกฎหมาย และการทำผิดยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังพบว่า แม้จะมีการลงโทษทางกฎหมาย แต่อย่างไรคนไทยที่มีส่วนร่วมก็ยังได้รับผลกระทบจากการกระทำเหล่านี้ เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวดพอ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือแรงงานจากประเทศจีนที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทย ไม่เพียงแค่มาเป็นแรงงานในภาคการก่อสร้างหรืออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานหนัก แต่ยังมีการเข้ามาลงทุนในธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านอาหาร โลจิสติกส์ และธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ อีกมากมาย การที่แรงงานจีนเข้ามาทำธุรกิจในไทยนั้นมีผลกระทบทั้งในแง่ของการแข่งขันทางธุรกิจและการใช้แรงงาน ซึ่งอาจสร้างความท้าทายให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและร้านค้าท้องถิ่นที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากทุนต่างชาติ

การมาของแรงงานจีนไม่เพียงแค่ในรูปแบบแรงงานที่มาเพื่อทำงานก่อสร้างหรืออุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานหนัก แต่ยังรวมถึงการที่พวกเขามาในฐานะเจ้าของธุรกิจที่มีทุนและเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยยากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงอย่างร้านอาหารและร้านค้าทั่วไป

การเพิ่มขึ้นของแรงงานจีนที่มาพร้อมกับการลงทุนในธุรกิจท้องถิ่นนี้ยังสร้างความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายแรงงานต่างชาติ และการที่บางกรณีอาจมีการแฝงตัวของแรงงานที่มาทำงานในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การอ้างตัวเป็นวิศวกรเพื่อเข้ามาทำงานในโครงการต่างๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายและส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานรัฐเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานในประเทศ ทั้งนี้การปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในหลายๆ ด้าน เช่น การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด การพัฒนาองค์ความรู้และทักษะใหม่ๆ จะช่วยให้สามารถแข่งขันกับธุรกิจจากต่างชาติได้อย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แรงงานต่างชาติในไทยเพิ่มขึ้น คือเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งเสริมการตั้งธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยมีการให้เงินกู้จากรัฐบาลที่ไม่คิดดอกเบี้ย ทำให้มีแรงงานจีนจำนวนมากที่มีทักษะและทุนเข้าสู่ตลาดแรงงานไทย

การแข่งขันกับแรงงานต่างชาติจากประเทศจีนมีความยากลำบาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่สามารถแข่งขันได้ในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่มีความได้เปรียบเหนือไทย การส่งเสริมทักษะ และการพัฒนาคุณภาพแรงงานไทย จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

สำหรับแนวทางการรับมือกับปัญหานี้ เสนอให้การส่งเสริมทักษะให้แก่แรงงานไทยโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและเครื่องจักร ซึ่งจะทำให้แรงงานไทยสามารถพัฒนาไปพร้อมกับการเติบโตของอุตสาหกรรม รวมถึงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรที่ช่วยทดแทนแรงงานมนุษย์ในบางสาขา

การปรับปรุงกฎหมายและการพัฒนาแรงงานในประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดผลกระทบจากการไหลเข้าของแรงงานต่างชาติ โดยการเสริมสร้างทักษะและสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

 

 

แท็ก