นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอสเอ็มอี ให้สัมภาษณ์ ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM100.5 ถึงกรณีแนวคิดการควบรวมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงวัฒนธรรม
นายยุทธชัย เปิดเผยว่า แนวคิดนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีสำคัญคือการลดความซ้ำซ้อนของการทำงานระหว่างสองกระทรวง “กระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงวัฒนธรรมเป็นของคู่กัน การส่งเสริมการท่องเที่ยวควรมีรากฐานจากวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ”
นอกจากนี้ นายยุทธชัยเสริมว่าการควบรวมอาจช่วยให้การจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การจัดเทศกาลที่สอดคล้องทั้งเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจและการอนุรักษ์วัฒนธรรม
อย่างไรก็ตาม นายยุทธชัยเตือนว่าการควบรวมอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างภารกิจหลักของทั้งสองกระทรวง “กระทรวงท่องเที่ยวฯ เน้นการสร้างรายได้ ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมมุ่งอนุรักษ์ ความแตกต่างนี้อาจทำให้เกิดความไม่ลงตัวในเชิงปฏิบัติ เช่น กิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่อาจกระทบความสงบของชุมชนหรือพื้นที่มรดกโลก”
มุมมองของภาคเอกชน นายยุทธชัยเน้นว่า “ภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ทั้งการกำหนดนโยบายและการประเมินผลกระทบ การจัดเวทีพูดคุยระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงชุมชนท้องถิ่น จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการอนุรักษ์วัฒนธรรม”
นายยุทธชัย ได้เสนอแนวทางเพื่อการควบรวมที่มีประสิทธิภาพ:
1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ต้องระบุบทบาทหน้าที่ของกระทรวงใหม่ให้ชัดเจน เช่น หน่วยงานหนึ่งดูแลการตลาดและอีกหน่วยงานเน้นการอนุรักษ์
2. สร้างความเข้าใจร่วมกัน การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้าใจทั้งมิติการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญ
3. ประชาพิจารณ์ การรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนจะช่วยลดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
“หากดำเนินการอย่างเหมาะสม การควบรวมนี้จะช่วยผลักดันไทยสู่การเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเวทีโลก แต่หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี มันอาจกลายเป็นดาบสองคม” นายยุทธชัยกล่าวปิดท้าย
กรณี การควบรวมกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงวัฒนธรรม หากบริหารจัดการดีจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่หากไม่รอบคอบอาจนำไปสู่ปัญหาที่ซับซ้อนได้