พล.ต.ต.เอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ให้สัมภาษณ์ ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 เกี่ยวกับมาตรการการป้องกันบัญชีม้า เริ่มต้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบและอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ทุกครั้งที่มีการแจ้งความเกี่ยวกับบัญชีม้า ตำรวจจะขอหมายอายัดบัญชีตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เงินไหลไปสู่มือของมิจฉาชีพ เจ้าหน้าที่ยังได้ส่งข้อมูลรายชื่อบัญชีเหล่านี้ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อประกาศบุคคลเหล่านี้เป็น “บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง” ทางด้านการฟอกเงิน ตั้งแต่กลางปี 2566 ปปง. ได้ประกาศรายชื่อบัญชีม้าและบุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่า 70,000 ราย ซึ่งรวมไปถึงบัญชีมากกว่า 600,000 บัญชี ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ เมื่อรวมกันแล้วระบบการป้องกันบัญชีม้าและการฟอกเงินได้ช่วยระงับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในบัญชีที่เชื่อมโยงกับการกระทำผิด มูลค่าเงินที่ถูกล็อกไว้ในระบบประมาณ 1,900 ล้านบาท
ต่อมาธนาคารในประเทศไทย ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรมที่สงสัย ว่าจะใช้บัญชีม้า ระบบนี้ได้ช่วยธนาคารตรวจสอบบัญชี และปิดบัญชีที่มีพฤติกรรมผิดปกติ และลดการเปิดบัญชีม้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความพยายามในการปิดกั้นบัญชีม้าก็เริ่มมีผล ทำให้ราคาในการขายบัญชีม้าพุ่งสูงขึ้น จากหลายล้านเป็นหลักหมื่นบาท สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการหาบัญชีม้า
นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มิจฉาชีพเริ่มปรับกลยุทธ์ใหม่ เริ่มหันมาใช้บัญชีนิติบุคคลแทนการใช้บัญชีบุคคลในการรับโอนเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จำนวนบัญชีนิติบุคคลที่เป็นบัญชีม้าก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกรรมที่เกี่ยวกับบัญชีม้าจะใช้บัญชีบุคคลเป็นหลัก แต่เมื่อบัญชีบุคคลเริ่มหายาก มิจฉาชีพจึงใช้วิธีการเปิดบริษัทโดยใช้ตัวแทนหรือ “นอมินี” เพื่อเปิดบัญชีในนามนิติบุคคล ซึ่งมีความน่าเชื่อถือมากกว่าบัญชีบุคคลและไม่ต้องสแกนใบหน้า มีบัญชีนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดประมาณร้อยกว่าบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง., ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางดิจิทัล ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) , และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กำลังร่วมมือกันเข้มงวดในการตรวจสอบและดำเนินการกวาดล้างบัญชีม้านิติบุคคลให้หมดไปจากระบบการเงินเพื่อปกป้องประชาชนจากการถูกหลอกลวง
ขณะนี้การเปิดบัญชีนิติบุคคลออนไลน์ กำลังได้รับความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดบัญชีผ่านระบบออนไลน์ที่ให้บริการโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถเปิดบริษัทได้ง่ายๆ ผ่านการส่งเอกสารออนไลน์และใช้ตัวแทนหรือ “นอมินี” ในการเปิดบัญชีได้ทันที การที่มิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้ในการเปิดบัญชีนิติบุคคลเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบกำลังเพิ่มขึ้น จึงมีการดำเนินมาตรการที่เข้มงวดขึ้น โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะตรวจสอบอย่างละเอียด สำหรับผู้ที่ใช้ชื่อหรือนิติบุคคลที่มีความเสี่ยง รวมถึงการต้องแสดงตัวและอธิบายความเป็นมาของการจดทะเบียนบริษัท หากไม่สามารถชี้แจงได้ ก็จะไม่อนุญาตให้เปิดบริษัท
ในส่วนมิจฉาชีพที่เคยใช้บัญชีม้าในรูปแบบบุคคลแล้วเปลี่ยนมาใช้บัญชีนิติบุคคลนั้น จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนการจดทะเบียนบริษัท หากมีประวัติการใช้บัญชีม้า การเปิดบริษัทจะไม่สามารถดำเนินการได้ และจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและชี้แจงหลายขั้นตอนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยกรมฯ รับปากว่าจะเข้มงวดมากขึ้นในการตรวจสอบรายชื่อที่มีความเสี่ยงสูง แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะเพิ่มขึ้น มิจฉาชีพก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้การตามทันปัญหามีความท้าทายและต้องใช้เวลามาก
ขณะนี้ปัญหาหลักในการติดตามการใช้บัญชีม้าคือความยากลำบากในการตรวจสอบการโอนเงินไปยังต้นตอที่แท้จริง เนื่องจากมิจฉาชีพมักจะโอนเงินผ่านหลายขั้นตอน และสุดท้ายจะเปลี่ยนเป็นเหรียญ cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซี) ซึ่งทำให้การติดตามร่องรอยของเงินยากขึ้นมาก โดยทั่วไปมิจฉาชีพจะสามารถโอนเงินออกจากระบบได้ในเวลาเพียง 5-7 นาที หลังจากที่หลอกเหยื่อสำเร็จ แม้ว่าจะมีระบบเชื่อมโยงกับธนาคารผ่านหมายเลข 1441 ที่ช่วยติดตาม แต่ความเร็วในการโอนและการแปลงเงินเป็น cryptocurrency ยังทำให้การติดตามเป็นไปอย่างล่าช้า บางครั้งผู้เสียหายต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือวันกว่าจะแจ้งเหตุการณ์ได้ ทำให้การตามรอยและดำเนินคดีกับมิจฉาชีพยิ่งยากขึ้น
หลังจากที่ปัญหาการซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้ของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกรณีที่มิจฉาชีพมีประวัติการกระทำผิดซ้ำซาก คณะกรรมการ พ.ร.ก. ได้มีการพิจารณาว่าหากมีผู้เสียหายจากการซื้อของไม่ได้ของตั้งแต่ 3 รายขึ้นไป จะถือเป็นเจตนาฉ้อโกงและให้ดำเนินคดีอาญา โดยเริ่มมีการประกาศรายชื่อผู้กระทำผิดในประเภท HR03 เพื่อระงับบัญชีและลดการหลอกลวงผ่านออนไลน์ เชื่อว่าการดำเนินการนี้จะช่วยลดโอกาสที่มิจฉาชีพจะหลอกลวงประชาชนได้มากขึ้น โดยมาตรการนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 2 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนปัญหาการซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้ของนั้น ส่วนใหญ่ผู้เสียหายมักจะไม่สามารถได้เงินคืนได้ง่ายๆ เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมายมักใช้เวลานาน อย่างไรก็ตามชุดปฏิบัติการพิเศษ DE ได้เสนอร่างพระราชกําหนดแก้ไข พ.ร.ก. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งหากผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีและกฤษฎีกาแล้ว จะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ดียิ่งขึ้น มาตรการใหม่จะให้อำนาจ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพ และหากเป็นกรณีของผู้เสียหาย ปปง. จะสามารถนำเงินคืนให้กับผู้เสียหายได้โดยไม่ต้องรอการตัดสินของศาล ซึ่งจะช่วยให้ผู้เสียหายได้รับการชดเชยความเสียหายได้เร็วขึ้น
แม้ว่าจะมีการดำเนินการเชิงรุกเพื่อปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพและยึดบัญชีจากการหลอกลวง แต่ยังมีช่องว่างที่ทำให้คนร้ายสามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ต่อเนื่อง การดำเนินการจะเร็วขึ้นภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มีการแจ้งความและการตรวจสอบจากธนาคาร ซึ่งบัญชีที่ถูกตรวจสอบจะถูกปิดใช้งาน อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดตามจับกุมพวกที่รวบรวมบัญชีมาขายให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการกระทำผิดและทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน
ในปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบ และจัดการกับเว็บพนันออนไลน์ รวมถึงการจับกุมผู้ที่สนับสนุน และชักชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมพนันเหล่านี้ เมื่อมีการจับกุม ผู้ต้องหาจะถูกตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินและยึดทรัพย์สิน พร้อมกับส่งฟ้องศาลแพ่งเพื่อยึดเงินและทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของแผ่นดิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อว่าในปี 2568 การกวาดล้างเว็บพนันออนไลน์จะเพิ่มขึ้น และจะสามารถยึดทรัพย์สินจากเว็บพนันเหล่านี้เพื่อมาบรรเทาปัญหาการพนัน และลดความเดือดร้อนให้กับสังคมได้มากขึ้น
ในส่วนกรณีที่ผู้เสียหายไม่รู้ตัวว่าบัญชีของตนกลายเป็นบัญชีม้า เช่น การหลอกให้กู้เงินผ่านแอปกู้เงินง่ายๆ ที่จะให้ผู้ใช้สแกนใบหน้า จากนั้นมิจฉาชีพจะใช้ภาพวิดีโอนั้นไปเปิดบัญชีออนไลน์โดยที่เจ้าของบัญชีไม่รู้ตัว ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อเข้มงวดการเปิดบัญชีออนไลน์ โดยอาจจำกัดวงเงินหรือการใช้เงินในบัญชีจนกว่าจะผ่านระยะเวลาหนึ่งเพื่อป้องกันปัญหานี้ การหลอกลวงโดยมิจฉาชีพบางครั้ง อาจทำให้ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ เช่น การให้โอนเงินผิดบัญชีแล้วอ้างว่าโอนผิด และให้โอนเงินต่อไปยังบัญชีม้า
ในกรณีนี้หากผู้เสียหายสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิด ก็จะได้รับความเป็นธรรมจากทางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ ที่บางคนอาจตกเป็นเหยื่อจากแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่หลอกให้เข้าไปพัวพันกับธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง หากเราไม่ทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ก็ต้องมั่นใจและไม่ให้หลอกลวงได้ หากท่านพบปัญหาจากการซื้อของปลอมหรือเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า หรือถูกหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ สามารถติดต่อไปยังศูนย์คอลเซนเตอร์ AOC 1441 ได้ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยให้ความช่วยเหลือและประสานงานกับธนาคารในการอายัดบัญชี หรือดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยท่านสามารถโทรไปที่หมายเลข 1441 เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ