เอกชนห่วงปมหลอกดาราจีน “ซิงซิง” สะเทือนวงการท่องเที่ยวไทย-เมียนมา

3-min

นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Good Morning ASEAN” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM100.5 ถึงกรณีการหลอกลวง “ซิงซิง” (Wang Xing หรือ หวางซิง) นักแสดงชื่อดังของจีน กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในจีนและสะเทือนวงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจีน เมียนมา และไทย

นายกริชกล่าวว่า ปัญหาการหลอกลวงในอุตสาหกรรมบันเทิง และผ่านแก๊ง คอลเซ็นเตอร์มีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในภาคเหนือของเมียนมา และกรณีนี้ได้รับความสนใจในจีน เพราะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีน

กรณีของ “ซิงซิง” ได้รับข้อเสนอจากกลุ่มคนที่อ้างว่ามีงานในไทย พร้อมตารางงานและค่าจ้างที่ดูสมจริง โดยมีการจัดการเดินทางไปไทย แต่การติดต่อออนไลน์ทำให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ ถูกพาไปเมียนมาและพบตัวเองในสถานการณ์เสี่ยง การหลอกลวงนี้ไม่เพียงแค่เกี่ยวกับการเงิน แต่ยังเกี่ยวข้องกับการข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายจากเมียนมาไปไทยด้วย

นายกริชกล่าวถึง บทบาทของ “เจียเจีย” (แฟนสาวของซิงซิง) และ “หวังชิน” (น้องชายของซิงซิง) ที่ช่วยกันให้ข้อมูลและขอความช่วยเหลือจากทางการไทยและจีน โดยการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อให้การตามหาซิงซิงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่เจียเจียให้กับตำรวจไทยช่วยให้การสืบสวนดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้กรณีดังกล่าว ยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะหลังจากที่จีนเริ่มฟื้นตัวจากการปิดเมืองในช่วงโควิด-19 และนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนไทยในจำนวนมาก

นายกริชเตือนว่า ถ้าไม่สามารถควบคุมและป้องกันการหลอกลวงจากแก๊งมิจฉาชีพได้ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีน ฉะนั้น รัฐบาลไทยและเมียนมาต้องเพิ่มมาตรการการตรวจสอบการข้ามพรมแดนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจากประเทศจีน เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งพัฒนาแผนการสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใสเกี่ยวกับการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ทั้งการพัฒนาและการป้องกันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค ASEAN โดยเฉพาะในยุคที่การเดินทางข้ามชาติสะดวกขึ้น

 

แท็ก