พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM100.5 ถึงกรณีร่างกฎหมายใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ( พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ) ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า อาจนำแนวทางของสิงคโปร์มาใช้ในการจัดการปัญหามิจฉาชีพออนไลน์
ฉะนั้น โมเดลของสิงคโปร์ที่ถูกกล่าวถึง ได้แบ่งความรับผิดชอบอย่างชัดเจนระหว่างธนาคาร ค่ายมือถือ และเจ้าของบัญชี โดยมุ่งเน้นให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันป้องกันและลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงทางออนไลน์ ธนาคารจะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ และอายัดบัญชีเมื่อพบความเสี่ยง ขณะที่ค่ายมือถือจะต้องคัดกรองและป้องกันการส่งข้อความลิงก์ปลอม รวมถึงตรวจสอบผู้ส่งที่ไม่ผ่านการลงทะเบียน
“กฎหมายของสิงคโปร์ ให้ความสำคัญกับการป้องกันในทุกขั้นตอน หากธนาคารหรือค่ายมือถือ ไม่ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด พวกเขาจะต้องร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหาย เช่นเดียวกับผู้ใช้บัญชีที่ต้องระมัดระวังในการทำธุรกรรม” พล.อ.ต.อมร กล่าว
พล.อ.ต.อมร กล่าวว่า หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณาและนำไปบังคับใช้ จะช่วยลดปัญหาที่พบเจอในปัจจุบัน เช่น แก๊งคอลเซนเตอร์ การส่งลิงก์หลอกลวงทาง SMS และการขโมยข้อมูลส่วนตัว โดยการผลักดันให้เกิดกฎหมายนี้อาจสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องความปลอดภัยดิจิทัล
“หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณา จะไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องประชาชนจากภัยไซเบอร์ในระยะยาว” พล.อ.ต.อมร กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม กฎหมายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงสร้างความหวังให้กับประชาชน แต่ยังเป็นโอกาสให้ทุกฝ่ายในระบบทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันภัยออนไลน์ในประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล