ที่โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาปราศรัยต่อประชาชนจำนวนมากที่มารอต้อนรับจนเต็มพื้นที่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น

นายทักษิณเปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาพบประชาชนอีกครั้งหลังจากห่างหายไปกว่า 20 ปี พร้อมยอมรับว่าการปราศรัยในครั้งนี้เหมือนการได้เกิดใหม่และกลับมาอยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนอีกครั้ง “รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ มันเป็นความผูกพันที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพราะผมเคยทำงานเพื่อพี่น้อง และวันนี้ในยามที่ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจ ผมมั่นใจว่าผมสามารถแก้ไขได้”

นายทักษิณกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาประเทศ โดยย้ำถึงความจำเป็นในการนำนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ ๆ มาใช้ แม้จะต้องเผชิญกับแรงต่อต้านจากกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วย “การเปลี่ยนแปลงมักมีคนไม่เข้าใจ บางครั้งการเสนอสิ่งใหม่กลับถูกมองว่าเป็นสิ่งแปลก เราต้องอธิบายและเดินหน้าด้วยความใจเย็น เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก วิธีแก้ปัญหาแบบเดิม ๆ ใช้ไม่ได้อีกแล้ว”

นายทักษิณยังได้พูดถึงแนวคิดการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยเสนอแนวทางสร้างเขื่อนถมทะเลเพื่อป้องกันระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน โดยยืนยันว่าโครงการดังกล่าวสามารถทำได้โดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน พร้อมชี้ให้เห็นความสำคัญของการดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาประเทศ โดยไม่เอาเปรียบประชาชน

ในระหว่างการปราศรัย นายทักษิณได้กล่าวถึงคำวิพากษ์วิจารณ์และข้อกล่าวหาที่ตนเคยเผชิญ โดยระบุว่าตนเองเข้าสู่การเมืองด้วยความโปร่งใส และรายงานทรัพย์สินตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ตำแหน่ง พร้อมกล่าวถึงการยึดทรัพย์กว่า 46,000 ล้านบาทว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับโดยไม่ร้องขออะไร พร้อมย้ำว่าเงินที่ถูกยึดนั้นเป็นทรัพย์สินที่ตนหามาได้อย่างสุจริต “มีเรื่องอีกเยอะที่ต้องการกำลังใจจากพี่น้อง วันนี้มีเรื่องต้องทำอีกเยอะ แต่กำลังใจจากพี่น้องเป็นเรื่องสำคัญ เพราะตังค์มีเยอะแล้วไม่เดือดร้อน มีคนบอกว่าผมโกง โกงพ่อมึงสิ ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินมาแท้ ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม้มีเงินเดือน 700 บาท กับรำไพ่วันละ 300 บาท ก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุขคือการทำให้บ้านเมืองและพี่น้องพ้นทุกข์”

นายทักษิณยังได้รำลึกถึงความสัมพันธ์กับนายศุภกร จรัสเสถียร หรือกำนันตง ผู้ที่พาตนลงพื้นที่อีสานครั้งแรกเมื่อปี 2542 ในยุคที่พรรคไทยรักไทยเพิ่งเริ่มต้น โดยยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยเปิดประตูสู่ภาคอีสานให้กับพรรค วันนี้ลูกชายของนายศุภกร ทั้งนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ซึ่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายวิทยา จรัสเสถียร ผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากนายทักษิณ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนในมหาสารคามมอบคะแนนเสียงให้เพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้

นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้ตนเองไม่ต้องการอะไรในชีวิตอีกแล้ว เพราะมีทรัพย์สินเพียงพอ แต่สิ่งที่ต้องการคือการช่วยประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น “ทุกวันนี้ผมได้เงินเดือนแค่ 700 บาท กับรายได้จากการลำไพ่วันละ 300 บาท แต่ผมไม่เดือดร้อน ความสุขของผมคือการทำให้พี่น้องพ้นทุกข์”

นายทักษิณทิ้งท้ายว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าพัฒนาประเทศโดยมีนายแพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้นำกองหน้า และตนเองทำหน้าที่เป็นกองหลังคอยคิดและนำเสนอนโยบาย พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และมอบโอกาสให้นายก อบจ.จากเพื่อไทยเข้ามาทำงานเพื่อการพัฒนาพื้นที่