ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำ เร่งเครื่องมาตรการเชิงรุก พื้นที่ควบคุมฝุ่น PM2.5 (LEZ) คืนแรกพบรถบรรทุกฝ่าฝืนเข้าพื้นที่ห้าม 725 คัน โดนค่าปรับทั้งหมด!
วันนี้ (23 ม.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สำนักสิ่งแวดล้อม เขตดินแดง
นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์ฝุ่น กทม. ยังรุนแรงอยู่ ค่าฝุ่นสีแดงเพิ่มมากขึ้นรวม 21 เขต โดยเฉพาะเขตรอบนอก ส่วนเขตด้านในยังคงตัว ช่วงนี้มีเสียงตำหนิจากประชาชนมาเยอะก็ขอน้อมรับ แต่ก็ต้องชี้แจงว่าเราต้องเข้าใจปัญหาด้วยเช่นกันว่าฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นมาจากไหน หลัก ๆ มาจาก 3 ปัจจัย คือ 1. รถยนต์ 2. การเผา 3. สภาพอากาศปิด โดยเฉพาะช่วง 2 วันนี้ที่อากาศไม่ถ่ายเท ทำให้ฝุ่นที่มียิ่งสะสมหนักหนาขึ้น ซึ่ง 2 ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้เลยคือ สภาพอากาศปิดเพราะเป็นวิถีธรรมชาติ และการเผาที่มาจากรอบนอก เพราะใน กทม. เองแทบไม่มีการเผา และเราจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด แต่รอบนอก กทม. เราคุมไม่ได้ ทั้งปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีสถิติการเผาสูงกว่าปีที่แล้วในเวลาเดียวกัน รวมถึงเรื่องทิศทางลมที่พัดมาจากรอบนอกเข้ามาหมุนวนในพื้นที่ กทม.
นายชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ กทม. ทำได้ คือพยายามควบคุมเรื่องฝุ่นควันจากรถให้มากที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้สั่งหยุดรถวิ่งทั้ง กทม. คุณภาพอากาศคงไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวโดยฉับพลัน เพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมายดังที่กล่าว ทั้งการเผา สภาพการระบายอากาศ ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่ต้องเข้าใจ ในส่วนของไซต์ก่อสร้างที่มีเสียงประชาชนร้องเรียนอยากให้หยุดการก่อสร้าง ที่ผ่านมา กทม. ไม่เคยสั่งหยุด เพียงแต่ขอความร่วมมือเพราะเราต้องดูสาเหตุของฝุ่นจริง ๆ ว่ามาจากอะไร กทม. เคยวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยวิเคราะห์มวลฝุ่นในช่วงค่าฝุ่นสูงในหน้าหนาว พบว่าธาตุของฝุ่นนั้น หลัก ๆ มาจากการเผา
“การจะแก้ปัญหาฝุ่นนั้น เราต้องใช้เหตุผล ใช้วิทยาศาตร์เป็นหลัก จะใช้ความรู้สึกไม่ได้” นายชัชชาติ ย้ำ
เรื่องฝุ่นจากรถ กทม. พยายามหามาตรการเท่าที่อำนาจจะมี เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เริ่มไปแล้วคือ Low Emission Zone (LEZ) จำกัดโซนการวิ่งรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปที่ไม่ลงทะเบียนสีเขียว ห้ามเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก รวมพื้นที่ 9 เขต และแนวถนนผ่าน 13 เขต ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน ถือเป็นครั้งแรก เราเสาะหาทุกวิถีทางที่เรามีเพื่อทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมา และหลังจากการประกาศย้ำอีกครั้งว่าจะบังคับใช้กฎนี้ในวันค่าฝุ่นสูง มีรถมาลงทะเบียนเพิ่มอีกว่า 2,000 คัน ภายในวันเดียว
“เสียงที่บอกว่าเราไม่ได้ทำมาตรการเชิงรุกเรื่องฝุ่น อยากให้ดูข้อมูลและการทำงานเพราะเราทำมาตลอด ไม่ได้เพิ่งเริ่ม เรื่อง LEZ เราคุยกันมากว่าครึ่งปีเพื่อให้เกิดขึ้นและไม่มีที่ไหนในประเทศไทยที่ทำสิ่งนี้มาก่อน คืนวานนี้ หลังบังคับใช้ LEZ เที่ยงคืนถึงหกโมงเช้า กล้องที่เรามี เทคโนโลยีที่เราใช้ ตรวจพบว่ามีรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป เข้ามาในเขตที่จำกัด 779 คัน ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว 54 คัน หมายความว่า 725 คัน ต้องโดนปรับ สิ่งที่ต้องการสื่อสารคือเราเอาจริง” นายชัชชาติ กล่าว
ด้านนายพรพรหม กล่าวเสริมว่า เรื่องการตรวจรถควันดำ กทม. ตะลุยตรวจต่อเนื่องแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่บอกว่าไปที่ไหน ให้เซอร์ไพรส์จะได้ไม่ทันตั้งตัว แต่เรื่องควันขาวของรถที่ถือว่าสร้างมลภาวะเช่นกัน แต่ไม่เข้าเกณฑ์การตรวจ ก็ได้เสนอรัฐบาลว่าควรจะปรับเปลี่ยนกฎให้เข้ากับบริบทสถานการณ์ และอยากย้ำว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/ไส้กรอง จะช่วยลดฝุ่นและ PM2.5 ได้ ซึ่งอยากให้เจ้าของรถ เจ้าของกิจการได้ร่วมกัน