“พวงเพ็ชร” ลุยกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า วันเดียว ยึดของกลางกว่า 5 ล้าน หลังพ่อแม่แห่ร้อง สคบ. เด็ก-เยาวชน เข้าถึงง่ายเหตุราคาถูก
เมื่อเวลา 22.00 น. (15 ก.พ.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ย่านคลองถม ถ.วรจักร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เพื่อติดตามและตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า หลังประชาชนร้องเรียนผ่าน สคบ. ว่ามีการเปิดร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก ทำให้มีเด็กและเยาวชนไปซื้อมาใช้เป็นจำนวนมาก
การลงพื้นที่เป็นไปตามภารกิจหลักของชุดปฏิบัติการ สคบ. ที่บูรณาการความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ในการปราบปรามและกวาดล้างการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยในช่วงบ่ายชุดปฏิบัติการ สคบ. ลงพื้นที่ย่านนวลจันทร์และเสนานิคม ตรวจยึดและจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าได้ 2 แห่ง มูลค่า 2 ล้านบาท และในช่วงค่ำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ย่านคลองถม พร้อมชุดปฏิบัติการ สคบ. กรุงเทพมหานครและกรมควบคุมโรค สามารถตรวจยึดของกลางจากร้านที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าได้ 7 แห่ง มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ขณะที่ผู้ค้าทำการหลบหนีระหว่างการลงพื้นที่ โดยรวมตลอดทั้งวันสามารถยึดของกลาง รวมมูลค่าทั้งสิ้น กว่า 5 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่นอกจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว อาจส่งผลกระทบและมอมเมาเด็กและเยาวชน ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล สคบ. ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบ ติดตาม และกวาดล้างอย่างจริงจัง ประกอบกับมีผู้ปกครองเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าว จากการลงพื้นที่วันนี้ พบว่าการหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าทำได้ง่าย และราคาไม่แพง เด็กและเยาวชนสามารถหาซื้อได้จากตลาดใจกลางเมือง ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก เราจะเร่งติดตามและขยายผลการลงพื้นที่อีกหลายจุด เพื่อกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าให้หมดไป ขณะเดียวกันจะพูดคุยกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อหาแนวทางสกัดกั้นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งได้หลายช่องทาง เช่น สายด่วน สคบ. 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th แอปพลิเคชัน OCPB Connect ศูนย์ดำรงธรรมในทุกจังหวัด รวมถึง Traffy Fondue ของกทม.” นางพวงเพ็ชร กล่าว
ปัจจุบันการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ