รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่นข่าว MCOT NEW FM 100.5 ถึงประเด็นการเมืองที่กำลังเป็นที่สนใจในช่วงนี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับพรรค “กล้าธรรม” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่มีความเคลื่อนไหวและความสำคัญในปัจจุบัน
รศ.ดร.ธนพรกล่าวถึง “พรรคกล้าธรรม” ว่าเป็นการใช้โมเดลการเมืองที่คล้ายกับ “โมเดลเนวิน” ที่เคยมีการใช้งานในพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะการมุ่งหวังเป็น “หัวหมา” (หัวหน้าพรรค) มากกว่าการเป็น “หางราชสีห์” (พรรคร่วมรัฐบาล) ซึ่งมีข้อได้เปรียบจากการเป็นพรรคการเมืองอิสระ ที่ไม่ต้องพึ่งพาความใหญ่ของพรรคการเมืองอื่น
นอกจากนี้ รศ.ดร.ธนพรยังกล่าวถึงความสำเร็จของ “พรรคกล้าธรรม” ในการสร้างเครือข่ายการเมืองที่กว้างขวางและการเข้าถึงกลุ่มมวลชนได้หลากหลาย เช่น กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มคนจนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้พรรคนี้มีฐานเสียงที่แข็งแกร่งและสามารถต่อยอดการเติบโตในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม แม้ “พรรคกล้าธรรม” จะมีต้นทุนที่ดีในการเดินหน้า แต่ยังมีข้อจำกัดในการขยายฐานเสียงในระดับชาติ โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวน ส.ส. ในระบบพรรคการเมือง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการสร้างฐานการสนับสนุนที่มั่นคง
รศ.ดร.ธนพรยังได้เปรียบเทียบ “พรรคกล้าธรรม” กับ “พรรคภูมิใจไทย” โดยกล่าวว่าถึงแม้ทั้งสองพรรคจะมีแนวทางการดำเนินการคล้ายกัน แต่พรรคภูมิใจไทยมีความสามารถในการเชื่อมโยงกับอำนาจการเมืองที่นอกเหนือจากพรรคการเมือง โดยเฉพาะการมีการติดต่อกับกลุ่มอำนาจอื่น ๆ ที่เหนือกว่าพรรคการเมืองเอง ซึ่งเป็นจุดที่ “พรรคกล้าธรรม” ยังไม่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ธนพรได้ชี้ให้เห็นว่า “พรรคกล้าธรรม” ไม่ได้ตั้งเป้าหมายจะเป็นพรรคที่มีอำนาจใหญ่เหมือน “พรรคภูมิใจไทย” แต่เป็นพรรคที่มุ่งเน้นการสร้างฐานเสียงในพื้นที่และตอบโจทย์ปัญหาของประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งจะทำให้พรรคมีความสำคัญในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลในอนาคต
รศ.ดร.ธนพรได้กล่าวว่า แม้เส้นทางของ “พรรคกล้าธรรม” จะมีความท้าทาย แต่ด้วยฐานที่แข็งแกร่งจาก ส.ส.ที่มาจากพรรคการเมืองเดิมและการเข้าถึงกลุ่มมวลชน พวกเขายังมีโอกาสในการเติบโตและขยายฐานเสียงในอนาคต เพียงแต่จะไม่สามารถขึ้นไปเทียบเคียงกับพรรคที่มีฐานอำนาจการเมืองที่หลากหลายได้